เอเอฟพี - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนในวันพฤหัสบดี (28) ตามหลังมีข่าวว่ารัสเซียส่งทหารนับพันนายเข้าไปเสริมความเข้มแข็งแก่ฝ่ายกบฏทางภาคตะวันออกของยูเครน ด้วยนายกรัฐมนตรีอังกฤษเตือนมอสโกเตรียมเผชิญผลลัพธ์อันหนักหน่วง อย่างไรก็ตาม ผู้นำเคียฟยืนยันสถานการณ์ยังอยู่ภายใต้การควบคุม
การประชุมที่มีขึ้นตามคำร้องของลิทัวเนีย ถูกกำหนดไว้ในเวลา 16.00 จีเอ็มที (ตรงกับเมืองไทย 23.00 น.) ที่ศูนย์บัญชาการใหญ่สหประชาชาติในนิวยอร์ก “จะมีการขอให้รัสเซียชี้แจงว่าทำไมถึงมีทหารของพวกเขาในยูเครน” มาร์ก ลีออล แกรนท์ ทูตอังกฤษ ในฐานะประธานหมุนเวียนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติบอกกับผู้สื่อข่าว “มันชัดเจนว่าตอนนี้มีทหารรัสเซียประจำการอยู่ในยูเครน”
นาโตเปิดเผยว่า มีทหารรัสเซียราว 1,000 นาย ประจำการอยู่ทางภาคพื้นเพื่อสนับสนุนกบฏแบ่งแยดกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียที่สู้รบกับกองกำลังรัฐบาลยูเครนมาตั้งแต่เดือนเมษษยน แต่มอสโกยืนกรานว่าไม่มีทหารของพวกเขาแม้แต่รายเดียวในแผ่นดินของยูเครน
เคียฟบอกว่าในวันพุธ (27) ทหารรัสเซียเข้ายึดเมืองโนโวอาซอฟสก์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดนและหมู่บ้านอื่นๆ ที่อยู่ล้อมรอบ ขณะที่กองทัพยูเครนก็อ้างเช่นกันว่ากองทหารมอสโกได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการขึ้นมาใกล้ๆ กับหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่เดียวกัน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย เรียกเสียงเตือนจากนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมตรีของอังกฤษ ที่บอกว่ามอสโกจะต้องเจอกับผลลัพธ์ที่ตามสนองในพฤติกรรมที่เขาเรียกว่าผิดกฎหมายและมิอาจยอมรับได้โดยสิ้นเชิง “เราเรียกร้องรัสเซียให้ใช้แนวทางอื่นและหามาตรการทางการเมืองคลี่คลายวิกฤตนี้ แต่หากรัสเซียไม่ทำแบบนั้น เราก็ไม่สงสัยเลยว่าพวกเขาต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ตามมาเพิ่มเติม”
แม้จะมีความกังวลจากนานาชาติ แต่สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ รายงานคำกล่าวของประธานาธิบดีโปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครนในวันพฤหัสบดี (28) หลังจากกองทัพสูญเสียเมืองสำคัญให้แก่พวกแบ่งแยกดินแดน ว่าสถานการณ์ในเขตแดนขัดแย้งทางภาคตะวันออก มีความยุ่งยากเป็นพิเศษ แต่ยังสามารถควบคุมได้
โปโรเชนโกกล่าวระหว่างประชุมกับเหล่าหัวหน้าด้านความมั่นคงระดับสูง หลังจากเมืองโนโวอาซอฟสก์ตกอยู่ในกำมือของฝ่ายกบฏว่า ทหารรัสเซียเข้ามาช่วยพวกแบ่งแยกดินแดนตามหลังความสำเร็จในปฏิบัติการทางทหารของยูเครนเมื่อเร็วๆ นี้
ส่วนโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีโพสต์ลงทวิตเตอร์ว่า นายโปโรเชนโกได้ส่งสารถึงเหล่าหัวหน้าด้านความมั่นคงว่า “เรามีความสามารถในการป้องกันตนเอง สิ่งสำคัญคือต้องไม่ตื่นตระหนก”
การสูญเสียเมืองโนโวอาซอฟสก์ที่เกิดขึ้นหลังจากพวกกบฏที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียใช้ยานยนต์หุ้มเกราะโจมตีต่อเนื่อง 2 วันติด ถือเป็นความปราชัยครั้งใหญ่ของกองกำลังรัฐบาล นับตั้งแต่พวกเขาต้องเคลื่อนพลออกจากเมืองมาริอูโปล เมืองท่าสำคัญในทะเลอาซอฟ หนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ ลงไปทางตะวันตกตามแนวชายฝั่ง
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกของกองทัพบอกว่ากองกำลังยูเครนสามารถกลับมารวมกลุ่มเพื่อปกป้องมาริอูโปลและมีกำลังทหารมากพอที่จะหยุดยั้งการเข้ายึดเมืองของฝ่ายกบฏ “กองทัพยูเครนได้มีการเสริมกำลังและกำลังวางแผนเพื่อโจมตีตอบโต้”
