อิสราเอลไล่ถล่ม “อาคารสูง” ในกาซา ยุทธวิธีใหม่หวัง “เช็คบิล” ฮามาส

เอเจนซีส์ – “วิกฤตกาซา” กลับระอุดุเดือดอีกครั้ง หลังกลุ่มฮามาส-อิสราเอลเมินเสียงเรียกร้องกลับสู่โต๊ะเจรจาหยุดยิงถาวรจากอียิปต์ โดยกองทัพอิสราเอลเปลี่ยนยุทธวิธีใหม่ระดมโจมตีอาคารสูงหลายแห่งในดินแดนฉนวนกาซา โดยอ้างว่า เป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการของฮามาส ขณะที่นักรบของกลุ่มอิสลามิสต์กลุ่มนี้ยังคงยิงจรวดและปืนครกใส่ดินแดนรัฐยิวอย่างต่อเนื่อง

ตั้งแต่เช้าตรู่วันอาทิตย์ (24 ส.ค.) กองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีอาคารสำนักงานสูง 7 ชั้น และชอปปิ้งเซนเตอร์สูง 2 ชั้นในเมืองราฟาห์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากถล่มอาคารอพาร์ตเมนต์สูง 12 ชั้นในเมืองกาซาซิตี้ เป็นการบ่งชี้ถึงเป้าหมายการโจมตีในยุทธวิธีใหม่ของกองทัพรัฐยิว

เจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสของอิสราเอลผู้ไม่ประสงค์เปิดเผยนามยืนยันว่า อิสราเอลกำลังมีนโยบายมุ่งโจมตีพวกอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการของกลุ่มฮามาส โดยการโจมตีทุกครั้งจะต้องได้รับอนุมัติจากนักกฎหมายของกองทัพก่อน และหลังจากได้เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ให้อพยพออกจากพื้นที่เป้าหมาย

ทั้งนี้ ทางฝ่ายอิสราเอลมีการระบุว่า อาคารสำนักงานสูง 7 ชั้นในเมืองราฟาห์ซึ่งถูกถล่มตอนเช้าตรู่วันอาทิตย์ เป็นที่ตั้งของกระทรวงมหาดไทยของกลุ่มฮามาส ส่วนอีก 2 แห่งที่ถูกถล่มก็มีศูนย์บัญชาการทางทหารของฮามาสตั้งอยู่

ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลยังระบุว่า ได้โจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายในดินแดนกาซา 20 ครั้งนับตั้งแต่เที่ยงคืนวันเสาร์ (23) เพื่อเป็นการตอบโต้ที่กลุ่มนักรบในดินแดนกาซายิงจรวดและปืนครกเข้าใส่ดินแดนอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง เฉพาะช่วงเช้าวันอาทิตย์มีการโจมตีอย่างน้อย 10 ลูก หลังจากโจมตีกว่า 100 ลูกเมื่อวันเสาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มีเป้าหมายอยู่ที่บริเวณตอนใต้ของอิสราเอล

นอกจากนั้น ยังมีจรวดอีก 5 ลูกยิงจากดินแดนซีเรียไปตกในพื้นที่โล่งทางตอนเหนือของอิสราเอล โดยยังไม่ชัดเจนว่า เป็นฝีมือกองกำลังที่สนับสนุนรัฐบาลซีเรียหรือกลุ่มกบฏ

ทางด้านปาเลสไตน์เผยว่า ประชาชนเสียชีวิต 2 คนจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใกล้ถนนเลียบชายฝั่งเมื่อวันอาทิตย์

การโจมตีตอบโต้กันเหล่านี้มีขึ้นหลังจากอียิปต์เรียกร้องเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ให้อิสราเอลและปาเลสไตน์กลับสู่การหารือทางอ้อมเกี่ยวกับการหยุดยิงถาวร

ทั้งนี้การเจรจาทางอ้อมหลายครั้งก่อนหน้านี้ได้ล้มเหลวมาตลอด เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมลดราวาศอก ฮามาสนั้นยื่นเงื่อนไขให้รัฐยิวยุติการปิดล้อมฉนวนกาซาที่ดำเนินมาถึง 8 ปี ขณะที่อิสราเอลต้องการให้ปลดอาวุธของกลุ่มฮามาสและนักรบอิสลามิสต์อื่นๆ ในกาซา

นับแตการเจรจาครั้งก่อนล้มเหลวลงเมื่อวันอังคาร (19) หลังจากมีการหยุดยิงต่อเนื่องมาได้ 9 วัน ความรุนแรงระลอกใหม่ได้บังเกิดขึ้นทันที ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์ 88 คน และเด็กชายอิสราเอลวัย 4 ขวบต้องสังเวยชีวิต

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศกร้าวเมื่อวันเสาร์ว่า จะแก้แค้นกรณีการเสียชีวิตของเด็กน้อย และวันเดียวกันนั้น อิสราเอลบอมบ์กาซาอย่างน้อย 60 ครั้ง ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 10 คน

ทั้งนี้ สหประชาชาติประเมินว่า บ้านเรือนกว่า 17,000 หลังในกาซาถูกทำลายหรือเสียหายจนเกินฟื้นฟูบูรณะนับแต่ที่การสู้รบระลอกนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม อย่างไรก็ดี การโจมตีในช่วงสุดสัปดาห์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เป้าหมายเป็นอาคารขนาดใหญ่

ยูเอ็นยังระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจากศึกครั้งนี้กว่า 2,100 ราย โดย 3 ใน 4 เป็นพลเรือน และเกือบ 500 คนเป็นเด็ก ส่วนอิสราเอลสูญเสียทหาร 64 นาย และพลเรือน 4 คน

ขณะที่กองทัพอิสราเอลเผยว่า นับจากการสู้รบเริ่มต้น อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อกาซาราว 5,000 ครั้ง ส่วนนักรบกาซายิงจรวดและปืนครกเข้าใส่รัฐยิวเกือบ 4,000 ลูก