เอเอฟพี – แผ่นดินไหวความแรง 6.4 ตามมาตราแมกนิจูด ได้เขย่าพื้นที่ภาคกลางของชิลีในวันเสาร์ (23 ส.ค.) แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงหรือผู้เสียชีวิตในเวลานี้
แรงสั่นสะเทือนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 05.32 น. ของวันอาทิตย์ (24) ในเมืองไทย) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงซานเตียโกครั้งนี้มีความลึก 32 กิโลเมตร
สำนักบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติชิลี ONEMI ซึ่งระบุว่าแผ่นดินไหวระลอกนี้มีความแรง 6.4 ตามมาตราแมกนิจูด เปิดเผยว่า พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ได้แก่ กรุงซานเตียโก และอีก 5 แคว้นของชาติละตินอเมริกาแห่งนี้
มีประชาชนอยู่อาศัยในเมืองหลวงของชิลีทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านคน โดยแรงสั่นสะเทือนส่งผลให้อาคารบ้านเรือนสั่นไหวอยู่ 30 - 40 วินาที และทำให้ประชาชนในประเทศที่คุ้นชินกับแผ่นดินไหวอย่างชิลี พากันตื่นตระหนก แต่ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดคลื่นยึกษ์สึนามิ
มิเกล ออร์ติซ ผู้อำนวยการ ONEMI กล่าวว่า “เกิดไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ แต่ไม่มีรายงานว่าเกิดความเสียหายขึ้นกับอาคารหรือโครงสร้างพื้นฐาน แต่ก็ยังเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น”
ชิลี คือหนึ่งในประเทศที่เผชิญกับแผ่นดินไหวมากที่สุดในโลก และตั้งอยู่ในเขตที่เรียกว่า “วงแหวนแห่งไฟ” (Ring of Fire) ของแอ่งแปซิฟิก
เมื่อเดือนเมษายน ได้เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 8.2 จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไป 6 คน และบีบให้ประชาชนหนึ่งล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในพื้นที่รอบเมืองอีกีเก เมืองเอกของแคว้นตาราปากา
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2010 แรงสั่นสะเทือนขนาด 8.8 ตามมาตราแมกนิจูดปะทุขึ้นนอกชายฝั่งแคว้นเมาเล ของชิลี ซึ่งนับเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงทีสุดครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์
ธรณีพิบัติภัยครั้งนั้นได้คร่าชีวิตประชาชนไปถึง 500 คน และสร้างความเสียหายเป็นมูล่ค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ