เอเจนซีส์ - จระเข้ยักษ์หัวสีขาวซึ่งได้ฉายาว่า “ไมเคิล แจ็กสัน” ถูกยิงตายแล้ว หลังจากที่มันสังหารชาวประมงคนหนึ่งทางภาคเหนือของออสเตรเลีย รายงานเผยวันนี้ (19 ส.ค.)
ทางการออสเตรเลียได้รับแจ้งว่ามีชาวประมงวัย 57 ปีคนหนึ่งหายตัวไป หลังลงไปในแม่น้ำแอดดิเลดที่เต็มไปด้วยฝูงจระเข้เพื่อปลดสายเบ็ดตกปลาที่วางเอาไว้ เมื่อค่ำวานนี้ (18)
ตำรวจระบุว่า ภรรยาของชายคนนี้ยืนอยู่ที่ริมตลิ่ง แต่ไม่เห็นวินาทีที่เจ้าสัตว์ร้ายตัวยาว 4.5 เมตรเข้ามางาบสามีของเธอ
“ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า เธอไม่ได้เห็นจระเข้ลากตัวชายคนนั้นไป แต่ได้ยินเสียงกรีดร้อง และเมื่อหันไปดูก็เห็นแค่ส่วนหางของจระเข้ตีน้ำกระจาย... เธอตกใจมาก” โจ โฟลีย์ ผู้กำกับการตำรวจประจำภูมิภาคนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี กล่าว
หลังจากนั้น ตำรวจก็ไปพบศพในน้ำซึ่งเชื่อว่าเป็นศพชาวประมงผู้สูญหาย
จุดที่ชายคนนี้ถูกจระเข้ลากตัวไปอยู่ห่างจากเมืองดาร์วินราว 60 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะล่องเรือไปชมฝูงจระเข้ และให้อาหารพวกมันโดยผูกติดกับปลายไม้ยาวๆ
แม่น้ำสายนี้เองที่เมื่อต้นเดือนนี้ปรากฏภาพของจระเข้ยักษ์นาม “บรูตัส” ฟัดกับฉลามหัวบาตรจนเป็นที่ฮือฮา และสุดท้ายมันก็เป็นฝ่ายชนะ
“ถ้าจระเข้ตัวที่ถูกยิงเป็น ไมเคิล แจ็กสัน ก็เป็นเรื่องน่าเสียใจจริงๆ” โทนี บลัมส์ เจ้าของกิจการเรือ แอดดิเลด ริเวอร์ ควีน ครูสส์ ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว ออสเตรเลียน บรอดคาสติง คอร์ปอเรชัน
“มันเป็นจระเข้เผือกเฉพาะส่วนหัว และเป็นสัตว์นิสัยดีมาก”
บลัมส์กล่าวต่อว่า นักท่องเที่ยวจะพบจระเข้อย่างน้อย 1 ตัวเมื่อล่องไปในแม่น้ำแอดดิเลดทุกๆ 100 เมตร และไมเคิล แจ็กสัน อาจจะลอยตัวอยู่ต่ำกว่าผิวน้ำเพียงเล็กน้อย ก่อนที่มันจะโจมตีเหยื่อ
ร็อบ มาร์แชนด์ เจ้าของกิจการ วัลลารู ทัวร์ส ก็ให้สัมภาษณ์เช่นกันว่า ฝูงจระเข้อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวของแม่น้ำแอดดิเลดมานานหลายปีแล้ว และมีการต่อสู้กันบ่อยๆ ในช่วงนี้ เพราะใกล้ถึงฤดูผสมพันธุ์
“จระเข้ก็แค่ทำไปตามธรรมชาติของมัน และนั่นคือกฎการอยู่รอด... พวกมันรู้จักแค่ 3 อย่างใหญ่ๆ คือ กิน ผสมพันธุ์ แล้วก็ทำร้าย... หากคุณไม่รู้จักดูแลตัวเอง คุณก็จะถูกพวกมันกินแน่”
ภาคเหนือของออสเตรเลียซึ่งมีสภาพอากาศร้อนชื้นเป็นถิ่นอาศัยของจระเข้ ซึ่งเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วหลังจากมีการออกกฎหมายคุ้มครองในปี 1971
รัฐบาลออสเตรเลียประเมินว่า ปัจจุบันมีประชากรจระเข้ราว 75,000-100,000 ตัว