เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลกเผยข้อมูลล่าสุด ที่ระบุว่าเชื้อไวรัสอีโบลาได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 1,013 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นเป็น 1,848 ราย ทางด้านญี่ปุ่นตัดสินใจสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ 24 คน ออกจาก 3 ประเทศที่อีโบลากำลังระบาดหนัก ส่วนบาทหลวงสเปนที่ได้รับการรักษาด้วยยาทดลองตัวใหม่ เสียชีวิตแล้ว
องค์การอนามัยโลก (ฮู) ได้เปิดเผยข้อมูลตัวเลขล่าสุดนี้เมื่อคืนวันจันทร์ (11 ส.ค.) โดยได้นับรวมเอาผู้ป่วย 52 รายของกินี ไลบีเรีย และ เซียร์ราลีโอน ที่เสียชีวิตระหว่างวันที่ 7 - 9 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว มีรายงานว่า กินีพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 คน กับผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 11 คน ส่วนไลบีเรียมีผู้เสียชีวิต 29 คน ติดเชื้ออีก 45 คน ขณะที่เซียร์ราลีโอนเสียชีวิตอีก 17 คน ติดเชื้ออีก 13 คน
ด้านสเปน มีรายงานจากโรงพยาบาลในกรุงมาดริด วันนี้ (12 ส.ค.) ว่า บาทหลวงวัยชราผู้ติดเชื้ออีโบลา เสียชีวิตเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ถูกนำตัวมาจากไลบีเรียเพื่อทำการรักษาได้เป็นเวลา 5 วัน
ทั้งนี้ คุณพ่อมิเกล ปาคาเรซ บาทหลวงของคริสตจักรคาทอลิก วัย 75 ปี ติดเชื้อจากโรงพยาบาลเซนต์โจเซฟในไลบีเรีย ที่เขาทำงานอยู่ จากนั้นได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม โดยมีการใช้ “ซีแมปป์” ยาที่กำลังอยู่ระหว่างการทดลองของสหรัฐฯ มาทำการรักษาด้วย
ด้านหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือแก่ต่างชาติของญี่ปุ่นออกมาระบุในวันนี้ (12 ส.ค.) ว่าได้สั่งถอนกำลังเจ้าหน้าที่ 24 คน ออกจากกินี ไลบีเรีย และ เซียร์ราลีโอน หลังจากที่ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะชนิดนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน
การดำเนินการครั้งนี้ของญี่ปุ่น เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่แพทย์ - พยาบาลของจีน 8 ราย ที่กำลังดูแลผู้ติดเชื้อในเซียร์ราลีโอน ถูกกักตัวเพื่อควบคุมโรค ทั้งนี้ เซียร์ราลีโอนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการระบาดอย่างหนักของอีโบลา เช่นเดียวกับกินี และ ไลบีเรีย
ยูโฮ ฮายากาวะ โฆษกขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (เจไอซีเอ) ระบุว่า คาดหวังให้การอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากประเทศเหล่านั้น สำเร็จลุล่วงได้ในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นยังไม่มีใครถูกกักตัวควบคุมโรค
“ยังไม่มีใครแสดงอาการ พวกเขาไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่ต้องใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้ออีโบลา” เขากล่าว
ฮายาคาวะ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สำหรับสำนักงานที่อยู่ในไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน จะได้รับการบริหารดูแลต่อโดยเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น ส่วนเจ้าหน้าที่ทั้ง 24 คนที่ถูกสั่งให้กลับมา จะมีทั้งเจ้าหน้าที่ด้านการเกษตร สาธารณสุข รวมถึงผู้เชี่ยวชาญการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน
