รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการเบนิน ยืนยันในวันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) พบผู้ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสมรณะ “อีโบลา” เป็นรายแรกของประเทศ เพิ่มความวิตกให้กับนานาชาติถึงการระบาดที่ลุกลามเข้าขั้น “คุมไม่อยู่” ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก
โดโรธี กาซาร์ด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสาธารณรัฐเบนิน ดินแดนที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 10.3 ล้านคนในแอฟริกาตะวันตก ออกมาแถลงทางโทรทัศน์ในวันพฤหัสบดี (7) โดยยืนยันว่าขณะนี้พบผู้ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้ออีโบลาเป็นรายแรกของประเทศแล้ว เป็นชายคนหนึ่งซึ่งถือสัญชาติไนจีเรีย
กาซาร์ดระบุว่า ชายชาวไนจีเรียรายนี้ได้ถูกนำตัวเข้ารับการดูแลอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขณะที่ตัวอย่างเลือดของเขาถูกส่งไปตรวจสอบยังห้องปฏิบัติการที่ประเทศเซเนกัลแล้ว
หากผลการตรวจสอบยืนยันว่า ชายคนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสมรณะอีโบลาซึ่งยังไม่มีหนทางรักษาจริงจะส่งผลให้เบนินกลายเป็นประเทศที่ 5 ของภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกที่พบผู้ติดเชื้อ ต่อจากกินี ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และไนจีเรีย
ทั้งนี้ มีรายงานว่าข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในหลายเมืองใหญ่ทั่วเบนิน โดยที่เมืองโกโตนู ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจนั้น เริ่มพบบรรยากาศของผู้คนที่ออกมาซื้อหาอาหาร ตลอดจน สินค้าจำเป็นไปกักตุน ขณะที่บรรดาร้านอาหารข้างถนนที่เคยได้รับความนิยมกลับเงียบเหงา เพราะผู้คนหวาดกลัวการออกนอกบ้าน หวั่นติดเชื้ออีโบลา
ด้านข้อมูลล่าสุดขององค์กรการกุศล “แพทย์ไร้พรมแดน” ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกจนถึงขณะนี้ ได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 1,711 รายแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้วถึง 932 ราย โดยที่ประเทศกินีที่เป็นต้นตอของการระบาดรอบนี้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดถึง 363 คน ขณะที่ไลบีเรียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดถึง 516 คน