เอเอฟพี – นักรบญิฮาดจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้เข้ายึดพื้นที่บางส่วนของฐานทัพในจังหวัด รอกา ของซีเรีย หลังจากเปิดฉากด้วยปฏิบัติการระเบิดฆ่าตัวตาย 3 ครั้งที่ประตูฐานทัพ เอ็นจีโอที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ในซีเรียและเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายต่อต้านรัฐบาล แถลงวันนี้ (7)
“กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย” (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุว่า กลุ่มหัวรุนแรงได้ติดพันในการต่อสู้อันหนักหน่วงกับกองทหารรัฐบาลที่กองพลน้อยที่ 93 ในจังหวัด รอกา ที่ซึ่งกลุ่มไอเอสได้เข้าควบคุมเมืองเอกของจังหวัดและพื้นที่ที่สำคัญจำนวนหนึ่งไว้แล้ว
การต่อสู่เริ่มขึ้นเมื่อคืนวานนี้ (6) หลังจากนักรบกลุ่มไอเอส 3 คนระเบิดตัวเองใส่ทางเข้าของฐานทัพและบริเวณโดยรอบ
แรงระเบิดในขั้นต้นทำให้ทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายสิบคน กลุ่มสังเกตการณ์เผย โดย อับเดล เราะห์มาน ผู้อำนวยการกลุ่ม ระบุว่า ยังไม่มีการยืนยันยอดผู้เสียชีวิต
กลุ่มสังเกตการณ์ ระบุว่า นักรบไอเอส “เข้าควบคุมพื้นที่หลายส่วนของฐานทัพ”
กลุ่มสังเกตการณ์ ซึ่งมีฐานในกรุงลอนดอนแห่งนี้ ระบุอีกว่า กองทหารรัฐบาลจำนวนมากได้ถอนกำลังมาอยู่ที่กองพลน้อยที่ 93 เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากกลุ่มไอเอสเข้ายึดฐานทัพกองพลที่ 17 และได้สังหารทหารไปอย่างน้อย 85 ราย
การจู่โจมครั้งนั้นทำให้จังหวัด รอกะ เกือบทั้งหมดตกอยู่ใต้การควบคุมของไอเอส เว้นแต่กองพลน้อยที่ 93 และสนามบินทหาร ตาบากา ซึ่งยังอยู่การควบคุมของกองทัพซีเรีย
ในการโจมตีกองพลที่ 17 เป็นเวลา 2 วันคราวนี้ยังมีการประหารชีวิตทหารมากกว่า 50 คน ในจำนวนนี้บางคนถูกตัดศีรษะ ซึ่งต่อมากลุ่มนักรบญิฮาดก็ได้นำศีรษะของพวกเขาออกมาโชว์ออกสื่อ
ทั้งนี้ กลุ่มไอเอส ได้เปิดตัวขึ้นครั้งแรกในสงครามซีเรียช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2013 ซึ่งตั้งแต่นั้นก็ได้แทบสามารถควบคุมจังหวัด รอกา และ เดียร์ เอซซอร์ ตรงบริเวณพรมแดนอิรักได้เกือบทั้งหมด
เมื่อเดือนมิถุนายน กลุ่มอิสลามิสต์สายสุหนีกลุ่มนี้ได้ประกาศจัดตั้ง “คอลิฟะห์” ที่มีอาณาเขตคร่อมซีเรียและอิรัก
ในช่วงแรกๆ นั้นกลุ่มกบฏบางพวกที่มีตะวันตกหนุนหลังและกำลังหาทางขับไล่ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดเช่นกันให้การต้อนรับกลุ่มไอเอสในฐานะพันธมิตรที่มีศักยภาพ
แต่เมื่ออิสลามิสต์กลุ่มนี้แสดงพฤติกรรมอันทารุณโหดเหี้ยมและเรียกร้องการมีอำนาจครอบงำกลุ่มกบฏซีเรียกลุ่มอื่นๆ จึงทำให้บรรดากลุ่มต่อต้านรัฐบาลหันมาคัดค้านพวกเขา
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี2011สงครามซีเรียได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 170,000 รายแล้ว