รอยเตอร์ - เกนนาดี ทิมเชนโก มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย มิตรคนสำคัญของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แสดงความไม่ยี่หระต่อบทลงโทษของตะวันตก โดยชี้ว่านักธุรกิจในรัสเซียจะไม่กดดันให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงท่าทีต่อยูเครน และการคว่ำบาตรมีแต่จะทำให้คนรัสเซียสนับสนุนประธานาธิบดีมากยิ่งขึ้น
ทิมเชนโกซึ่งมีทรัพย์สินอยู่ระหว่าง 12,000-16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีชื่ออยู่ในบัญชีคว่ำบาตรของวอชิงตัน ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์ ว่า ตะวันตก “คิดผิดถนัด” ที่ใช้วิธีคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย โดยหวังว่าจะกดดัน ปูติน และบุคคลใกล้ชิด รวมถึงพลิกสถานการณ์ในยูเครนได้
“ไม่หรอก ตัดประเด็นนี้ไปได้เลย” ทิมเชนโกตอบชัดเจนเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพวกนักธุรกิจที่ได้รับความเดือดร้อนจะกดดันให้ปูตินยอมอ่อนข้อหรือไม่
“วลาดิมีร์ วลาดิมิโรวิช (ปูติน) คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของรัสเซียเท่านั้น จะไม่มีการรอมชอมในเรื่องนี้แน่ และนักธุรกิจอย่างเราก็ไม่คิดที่จะเอ่ยถึงมันด้วยซ้ำ”
“ใครก็ตามที่คิดว่าการคว่ำบาตรจะทำให้รัสเซียกลัวหรือล่าถอย ช่างไร้เดียงสาสิ้นดี”
ทิมเชนโก เป็นนักธุรกิจรัสเซียรายแรกๆ ที่ถูกสหรัฐฯ และชาติตะวันตกขึ้นบัญชีคว่ำบาตร อายัดทรัพย์สิน และแบนวีซา เพื่อลงโทษที่มอสโกยึดครองแหลมไครเมีย และยังยุยงพวกนิยมรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครนให้คิดกบฏต่อรัฐบาลเคียฟ
มหาเศรษฐีรายนี้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทชั้นนำหลายแห่งของรัสเซีย เช่น โนวาเท็ก ซึ่งผลิตก๊าซธรรมชาติ, เหมืองถ่านหิน โกลมาร์ (Kolmar), ธนาคารรอสสิยา และบริษัทปิโตรเคมี ซีบูร์ (Sibur)
ทิมเชนโก บอกกับ อิตาร์-ทาสส์ ว่า ทุกวันนี้เขาไม่ใช้ทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ เพราะกลัวถูกสอดแนม ส่วนทรัพย์สินนับหมื่นๆ ล้านที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงตลอดยุคสมัยที่ ปูติน ปกครองประเทศก็ “ไม่สำคัญเลย” และยินดีจะ “ยกให้รัฐ” ทั้งหมดหากถึงคราวจำเป็น
“ผมขอประกาศในส่วนของผมเองว่า หากมีความจำเป็น พรุ่งนี้ผมก็พร้อมที่จะยกทรัพย์สินทั้งหมดให้รัฐ หรือมอบให้การกุศล เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น”
“ผมกับภรรยาเคยคุยกันเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ อันที่จริงเราไม่จำเป็นต้องใช้เงินเป็นหมื่นๆ ล้านหรอก”
ทิมเชนโก ซึ่งเคยร่วมเป็นเจ้าของ กุนวอร์ (Gunvor) 1 ใน 5 บริษัทค้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ยอมรับว่าคำสั่งคว่ำบาตรของตะวันตกทำให้เขาไม่สามารถใช้บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด และวีซาได้ จึงต้องหันไปใช้บริการ “ยูเนียนเพย์” ของจีนแทน
