xs
xsm
sm
md
lg

“เคียฟพักรบ 1 วัน” เปิดทางนานาชาติสอบสวน MH17 - นายกฯอังกฤษลั่น “จะไม่เริ่มต้นก่อสงครามโลกครั้งต่อไปกับปูติน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สงครามโลกครั้งที่ 3 จะไม่วันเกิดจากเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษแน่นอน ถึงแม้ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซียจะผนวกไครเมีย และส่งทหาร พร้อมอาวุธไปยังยูเครนตะวันออก เพราะอังกฤษได้เรียนรู้จากอดีตถึงการรับมือความก้าวร้าวของเยอรมันก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 และที่ 2
เอเอฟพี /เอเจนซีส์ - ในวันนี้ (31 ก.ค.) เคียฟออกแถลงการณ์ประกาศ หยุดปฎิบัติการทางทาหรกับกลุ่มกบฎยูเครนในทางตะวันออกตลอดทั้งวัน หลังจากการสู้รบที่ยืดเยื้อทำให้หยุดความคืบหน้าของเจ้าหน้าที่นานาชาติในการเริ่มสอบสวนคดี MH17 ในขณะที่เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ประกาศเมื่อวานนี้ (31) ว่าอังกฤษเลือกที่จะใช้วิธีกดดันรัสเซียทางเศรษฐกิจแทนที่จะเริ่มก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 จากปัญหายูเครน และบิซิเนส อินไซเดอร์ชี้ อินสตาแกรมของทหารรัสเซียนายหนึ่งอาจถือเป็นหลักฐานเด็ดในการพิสูจน์ว่ามอสโกส่งทหารเข้ายูเครนเพื่อหนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจากออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ใช้ความพยายามเป็นวันที่ 5 ที่จะเดินทางเข้าสู่จุดตกของ MH17 หลังจากสิ้นสุดการปะทะระหว่างกองกำลังแนชันแนลการ์ดของเคียฟและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนทางภาคตะวันออกของยูเครน

ทั้งนี้ กองทัพยูเครนประกาศการหยุดปฏิบัติการทางทหารทั่วพื้นที่ตะวันออกของยูเครนอย่างฉับพลันในวันนี้ (31) หลังจากเลขาธิการสหประชาชาติ บัน คีมูน ได้ร้องขอให้มีการหยุดสู้รบในบริเวณจุดตก MH17 ซึ่งยังคงมีร่างผู้เสียชีวิตยังหลงเหลืออยู่ในบริเวณนั้น “เราตัดสินใจที่จะยังไม่ออกปฏิบัติการทางทหารเพื่อไปตามนโยบายที่เรียกว่า “วันแห่งความเงียบสงบ” โอเลกซี ดมิตราชคีฟสกี (Oleksiy Dmytrashkivsky) แถลงกับเอเอฟพี

อย่างไรก็ตาม เคียฟยังคงประนามกลุ่มกบฏที่ยังคงยึดครองพื้นที่จุดตกนั้นปิดกั้นการเข้าถึงของเจ้าหน้าที่นานาชาติสอบสวน พร้อมกับเตือนว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนยังคงโจมตีที่ตั้งกองกำลังแนชันแนลการ์ดที่มีอยู่ทั่วยูเครนตะวันออก

ในขณะเดียวกัน ในกรุงเคียฟ รัฐสภาเคียฟได้มีกำหนดที่จะปิดห้องหารือในวันพฤหัสบดี (31) เพื่อลงมติในข้อตกลงที่จะอนุญาตให้รัฐบาลเฮก และรัฐบาลแคนเบอร์ราสามารถส่งเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธจำนวน 1,000 นาย เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในจุดตกของ MH17 ซึ่งถือเป็นเขตสงครามในขณะนี้ แต่ทว่าเนเธอร์แลนด์ได้ปิดช่องการส่งหน่วยรบไปยังยูเครนตะวันออก เพราะเกรงจะทำให้วิกฤตยูเครนตะวันออกจะย่ำแย่ไปมากกว่านี้ที่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาทำให้มีคนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 1,100 คน

แต่ถึงแม้จะมีการพักรบช่วงสั้น ยอดการเสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้สัมภาษณ์ว่า การปะทะในลูกานสก์ที่เป็นถิ่นของกบฏยูเครน ส่งผลให้ภายใน 24 ชม.ที่ผ่านมา มีพลเรือนเสียชีวิต 3 คน รวมไปถึงเด็กอายุ 5 ปี

ในขณะที่เมื่อวานนี้ (30) สื่อรัสเซีย RT รายงานว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน ประกาศชัดในช่วงถามตอบกับเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานใหญ่ของ United Utilities ในวาร์ริงตันว่า อังกฤษจะไม่เริ่มสงครามยุโรป หรือส่งกองทัพเรือไปยังทะเลดำ เพราะวิกฤตยูเครน แต่จะเลือกใช้วิธีกดดันทางเศรษฐกิจกับรัสเซียแทน เพราะอังกฤษเรียนรู้เป็นอย่างดีจากอดีตในการรับมือความก้าวร้าวของเยอรมันในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2

เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงว่า “ในปีนี้เป็นวาระการครบรอบ 100 ปีของสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นสงครามที่แสดงถึงสิทธิของประเทศเล็กๆ เช่น เบลเยียม ที่จะไม่ถูกรุกรานจากเพื่อนบ้าน และอังกฤษได้เรียนรู้อีกครั้งในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับโปแลนด์ เชคโกสโลวาเกีย และประเทศอื่นๆ และนี่เป็นสิ่งที่เรากำลังเห็นในยุโรปปัจจุบันนี้”

คาเมรอนยังกล่าวต่อว่า อาณาเขตของยูเครนได้ถูกรับรองโดยองค์การสหประชาชาติ และยูเครนมีสิทธิอย่างเต็มที่ต่อสภาพอาณาเขตของตัวเองโดยไม่ต้องขอความเห็นใจจากรัสเซีย “นี่อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นเงินมาจากรัสเซียในความคิดของผม นี่เป็นคนของรัสเซีย นี่เป็นอาวุธของรัสเซียที่ถูกส่งไปยังยูเครนเพื่อช่วยเหลือกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในการต่อสู้กับรัฐบาลยูเครน”

ขณะที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังให้ความเห็นถึง MH17 ว่าเป็นเสมือนสิ่งที่ปลุกให้คนทั้งโลกตื่นและรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นถึงแม้จะไม่มีหลักฐานแน่นหนาที่จะสรุปได้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มกบฏก็ตาม แต่หลักฐานแวดล้อมชี้ว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนใช้ขีปนาวุธยิง MH17 ตก

ทั้งนี้ คาเมรอนเห็นสอดคล้องว่า ทางสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ มาถูกทางแล้วที่ใช้วิธีการกดดันทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาเมรอนเชื่อมั่นว่าการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียต้องได้ผล เพราะ “รัสเซียต้องการอียูและสหรัฐฯ มากเสียยิ่งกว่าสหภาพยุโรปและอเมริกาต้องการรัสเซีย”

ด้านบิสซิเนส อินไซเดอร์ วันนี้ (31) ได้รายงานถึงอินสตราแกรมของ อเล็กซานเดอร์ ซอตคิน (Alexander Sotkin) ทหารรัสเซียวัย 24 ปีที่ถ่ายเซลฟีของตนเองและโพสต์ลงอินสตราแกรม และเมื่อใช้ระบบจีพีเอสจับ จะพบว่านายทหารคนนี้แท้จริงแล้วอยู่ในดินแดนยูเครน ซึ่งถือเป็นหลักฐานพิสูจน์อย่างง่ายแต่ชัดเจนที่จะทำให้มอสโกเถียงไม่ออกถึงข้อกล่าวหาการให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฎยูเครน

แม็กซ์ เซดดอน ได้พบว่า ซอตคิน วัย 24 ปีได้โพสต์ภาพของสถานที่หน่วยประจำทางทหารของเขา รวมไปถึงปฏิบัติการต่างที่น่าสนใจ ซึ่งในขณะที่เซดดอนกำลังทึ่งกับภาพต่างๆ ของซอตคินที่แสดงว่าเขาอยู่ทางใต้ของรัสเซีย รวมถึงการถ่ายเซลฟีในดินแดนอิทธิพลของกลุ่มกบฏยูเครนใน Krasna Talycha ในตะวันออกของยูเครน นั้นถือเป็นเรื่องที่น่าฉงน

มอสโกได้ปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วนถึงความเกี่ยวข้องในวิกฤตยูเครนตะวันออก และปฏิเสธว่าได้ส่งทหารเข้าไปในยูเครน ดังนั้นภาพเซลฟีของทหารหน่วยรบพิเศษรัสเซียที่ดูธรรมดานี้อาจเป็นหลักฐานชิ้นเอกในการมัดมอสโกได้สำเร็จ เพราะพบว่าซอตคินยังโพสต์ภาพเซลฟีของตนเองที่ Krasny Derkul ในยูเครนตะวันออก ในวันที่ 5 กรกฎาคม

หนึ่งในฟีเจอร์ของอินสตาแกรมนั้นมี “geotagging” แสดงให้เห็นว่าภาพทั้งสองโยงพิกัดลองติจูดและแลตติจูดจากจีพีเอสบนโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตพีซีของซอตคิน ทำให้แสดงว่าเจ้าของเซลฟีทั้งสองภาพนั้นอยู่ในดินแดนยูเครน ข้อมูลสถานที่จะถูกเพิ่มในรูปภาพหากยูเซอร์ได้เลือก “add to photo map” ก่อนที่จะทำการโพสต์

และเป็นเพราะต้องอ้างอิงกับระบบจีพีเอส จึงทำให้  geolocation บนอินสตาแกรมแม่นยำ แต่อย่างไรก็ตามเซดดอนกล่าวว่า เป็นไปได้ว่าทหารรบพิเศษรัสเซียผู้นี้อาจจะใช้เครื่องมือบางอย่างเพื่อสร้างพิกัดหลอก

แต่ทว่าถึงจะเป็นกรณีนี้ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น และอาจแปลกใจว่าเหตุใดจึงสามารถใช้วิธีง่ายดายในการพิสูจน์

บิซิเนส อินไซเดอร์ระบุว่า ปัญหาgeotagging นี้เป็นปัญหาความมั่นคงของกองทัพสหรัฐฯ จากการที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพอเมริกาได้ระบุว่า การทวีตระบุตำแหน่งและปฎิบัติการของทหารใน OPSEC ทุกครึ่งชั่วโมงเป็นเสมือนเชิญให้ข้าศึกมาถึงประตูหน้าบ้าน เพราะใครสักคนแค่ทำการเสิร์ช #ปฏิบัติการทางทหารบนอินสตาแกรมเพื่อค้นหารูปภาพของหน่วยประจำทุกจุดบนโลกเท่านั้น เหมือนกับที่เซดดอนพบเซลฟีของหน่วยรบพิเศษรัสเซียบนอินสตาแกรม
พักระหว่างรบ ศึกที่ยังไม่สงบใน“วันแห่งความเงียบสงบ”ของยูเครนตะวันออก
อินสตราแกรมของ อเล็กซานเดอร์ ซอตคิน (Alexander Sotkin) ทหารรัสเซียวัย 24 ปีที่ถ่ายเซลฟีของตนเองและโพสต์ลงอินสตราแกรม



กำลังโหลดความคิดเห็น