เอเอฟพี - วอชิงตันมีแผนจำหน่ายขีปนาวุธเฮลไฟร์จำนวน 5,000 หัวให้อิรักเป็นวงเงินราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้แบกแดดในการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธนิกายสุหนี่ที่บุกยึดเมืองสำคัญหลายแห่ง เจ้าหน้าที่อเมริกันเผยวานนี้ (29 ก.ค.)
สหรัฐฯ ซึ่งลังเลที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบ ได้ส่งขีปนาวุธหลายร้อยหัวเข้าไปช่วยผู้นำอิรักซึ่งเป็นมุสลิมนิกายชีอะห์กวาดล้างกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (Islamic State - IS) ที่บุกยึดพื้นที่ตอนเหนือและตะวันตกของกรุงแบกแดด
ข้อเสนอครั้งนี้นับเป็นการขายอาวุธร้ายแรงล็อตใหญ่ที่สุดให้แก่อิรัก ซึ่งจะสามารถนำขีปนาวุธเฮลไฟร์ไปใช้ยิงจากเครื่องบินรุ่น AC-208 Cessna Caravan หรืออากาศยานประเภทอื่นๆ ก็ได้
สำนักงานความร่วมมือด้านความปลอดภัยกลาโหม (Defense Security Cooperation Agency - DSCA) แถลงวานนี้ (29) ว่า สัญญาจำหน่ายอาวุธให้แก่อิรักประกอบด้วยขีปนาวุธ AGM-114K/N/R Hellfire จำนวน 5,000 หัว พร้อมอุปกรณ์เสริม อะไหล่ การฝึกฝนวิธีใช้งาน และการสนับสนุนด้านการขนส่ง รวมมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“อิรักจะสามารถนำขีปนาวุธเฮลไฟร์ไปเสริมศักยภาพของกองกำลังความมั่นคง และสนับสนุนปฏิบัติการภาคพื้นดินซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้” ดีเอสซีเอระบุ
สัญญาซื้อขายอาวุธดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนของการนำเสนอต่อสภาคองเกรส ซึ่งคาดว่าจะไม่มีอุปสรรคใดๆ
พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกเพนตากอน ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า สหรัฐฯ ส่งขีปนาวุธเฮลไฟร์ไปยังอิรักรวมทั้งสิ้น 780 หัวนับตั้งแต่เดือนมกราคม เฉพาะในเดือนกรกฎาคมมีการจัดส่งไปทั้งสิ้น 466 หัว และกำลังจะส่งไปเพิ่มเติมอีก 366 หัวในเดือนสิงหาคมนี้
ขีปนาวุธเฮลไฟร์ซึ่งผลิตโดยบริษัทอาวุธยักษ์ใหญ่ ล็อกฮีด มาร์ติน ถูกใช้ในอากาศยานไร้คนขับรุ่น “พรีเดเตอร์” และ “รีปเปอร์” ของสหรัฐฯ ซึ่งปฏิบัติภารกิจโจมตีกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในปากีสถาน เยเมน และดินแดนอื่นๆ
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ส่งที่ปรึกษาทหารกว่า 200 นายไปยังกรุงแบกแดดเพื่อ “ประเมินความพร้อม” ของกองทัพอิรัก แต่ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนว่าจะใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหรือไม่ในอนาคต
รัฐบาลโอบามาชี้ว่า กลุ่มติดอาวุธไอเอสอาศัยช่วงที่รัฐบาลอิรักล้มเหลวในการผูกมิตรกับผู้นำมุสลิมสุหนี่และชาวเคิร์ดแผ่ขยายอิทธิพลอย่างกว้างขวาง