เอเอฟพี - ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในวันนี้ (29 ก.ค.) ที่จะยกระดับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ รวมถึงร่วมกันพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ด้านการทหาร
“อิตซึโนริ โอโนเดระ” และ “ชอง อีฟ เลอ แดร็ง” รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น และฝรั่งเศส ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกความเข้าใจฉบับดังกล่าวในกรุงโตเกียว แม้ว่าทางญี่ปุ่นจะมีความกังวลอยู่บ้างในเรื่องที่ฝรั่งเศสขายเรือรบให้รัสเซีย
การบรรลุข้อตกลลงครั้งนี้เกิดขึ้นได้ไม่นาน หลังจากที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ขยายขอบเขตอำนาจของกองกำลังป้องกันตนเอง ทำให้สามารถไปร่วมรบเพื่อปกป้องชาติพันธมิตรได้ อีกทั้งยังเป็นไปตามพันธสัญญาที่ทางผู้นำญี่ปุ่นและฝรั่งเศสได้ทำร่วมกันในกรุงปารีส เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า จะทำข้อตกลงในการร่วมกันพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ด้านการทหาร
“การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ เราทั้งคู่เห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือกัน ในด้านการป้องกันประเทศ” โอโนเดระ กล่าว
เขากล่าวเพิ่มเติมในระหว่างการพูดคุยว่า เลอ แดร็ง ยังต้องการให้ทั้งสองชาติทำข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดหาและให้บริการยุทโธปกรณ์แก่กำลังทหารของอีกฝ่าย แบบเดียวกับที่ทางญี่ปุ่นได้ทำไว้กับสหรัฐฯ และออสเตรเลีย
ข้อตกลงดังกล่าว จะช่วยให้ทั้งสองชาติสามารถแลกเปลี่ยนอาหาร เชื้อเพลิง การขนส่ง กระสุน อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนด้านอื่นๆ
โอโนเดระ บอกอีกว่า ฝรั่งเศสแสดงความต้องการที่จะร่วมพัฒนายุทโธปกรณ์การทหารประเภทที่เป็นเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์ รวมถึงพวกระบบขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ อย่างเช่นยานพาหนะใต้น้ำ
นอกจากนี้ โอโนเดระ ยังได้ขอให้ทาง เลอ แดร็ง ล้มเลิกแผนที่จะขายเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์จำนวนสองลำให้กับทางรัสเซีย เพราะเกรงว่ารัสเซียจะนำไปใช้ในยูเครนและตะวันออกกลาง แต่ทางด้าน เลอ แดร็ง บอกว่า เงินที่ได้มาจากการขายเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้นมิสทรัล 2 ลำนั้นถูกใช้ไปหมดแล้ว โดยเรือรุ่นดังกล่าวจะสามารถจอดเฮลิคอปเตอร์ รถถัง รวมถึงยิงขีปนาวุธได้ด้วย
การทำข้อตกลงกับทางฝรั่งเศสในครั้งนี้ ถือเป็นประเทศที่สองที่ญี่ปุ่นทำข้อตกลงด้วยในรอบเดือนนี้ โดยก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะร่วมวิจัยขีปนาวุธอากาศสู่อากาศกับทางประเทศอังกฤษ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้ผ่อนปรนข้อห้ามเกี่ยวกับการส่งออกอาวุธ เพื่อจะยกระดับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศร่วมกับชาติอื่น ขณะที่การขยายขอบเขตอำนาจของกองกำลังป้องกันตนเองเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ก็ส่งผลให้เกิดเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากจากการแสดงท่าทีด้านสันติภาพของญี่ปุ่นในอดีต