เอเอฟพี – เซบาสเตียน เคิร์ซ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรียเผยว่า คณะกรรมาธิการยุโรปจะเตรียมเดินหน้าคว่ำบาตรภาคกลาโหมของรัสเซีย จากวิกฤตยูเครนเร็วๆ นี้
เขากล่าวว่า “คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปจะได้รับมอบหมายให้เตรียมการคว่ำบาตรภาคส่วนสำคัญด้านเทคโนโลยีและการทหาร” ของรัสเซีย
แหล่งข่าวรายอื่นๆ ในสหภาพยุโรป (อียู) ต่างยืนยันคำประกาศนี้ ซึ่งเปิดเผยออกมาระหว่างที่บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกอียู ผนึกกำลังกันตอบโต้มอสโก หลังเกิดเหตุเที่ยวบิน MH17 โหม่งโลกในยูเครนตะวันออก ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และขณะที่ตะวันตกผลัดกันออกมากล่าวหากลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียว่า เป็นฝ่ายใช้ระบบขีปนาวุธที่มอสโกลอบส่งให้ ยิงอากาศยานโดยสารลำนี้ร่วงลงมา
แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า สหภาพยุโรปกำลังเล็งประกาศคว่ำบาตรภาคส่วนอื่นๆ ของแดนหมีขาว นอกจากธุรกิจด้านกลาโหม และเทคโนโลยีชั้นสูง เป็นต้นว่า อาจตัดช่องทางไม่ให้รัสเซียเข้าถึงตลาดการเงินยุโรป รวมทั้งตั้งเป้าเล่นงานภาคพลังงาน และสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (ทางพาณิชย์และทางทหาร)
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้จะรวมอยู่ในมาตรการ “ขั้นที่ 2” ที่อียูประกาศใช้ในปัจจุบัน อันได้แก่ การงดออกวีซา และอายัดทรัพย์สินของบุคคลสำคัญชาวรัสเซีย และยูเครนรวม 72 คน จากการที่พวกเขามีบทบาทสำคัญในการทำให้วิกฤตยูเครนลุกลามบานปลายออกไป หรือผ่านพ้นเข้าสู่มาตรการ “ขั้นที่ 3”ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อทุกฝักทุกฝ่าย
แม้กระนั้น การดำเนินการในขั้นนี้ยังจะต้องผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมซัมมิตอีกครั้ง ภายหลังที่เมื่อวันพุธที่แล้ว (16) บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกอียูได้เห็นพ้องต้องกันให้ยืดระยะเวลาประกาศมาตรการคว่ำบาตรขั้นที่ 2 ออกไป เนื่องจากรัสเซียไม่มีทีท่าว่าจะยอมเปลี่ยนจุดยืนต่อวิกฤตยูเครน
หัวหอกที่ออกมาผลักดันให้คว่ำบาตรรัสเซียรุนแรงขึ้นอีก โดยวานนี้ (21) นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษก็เรียกร้องให้ลงโทษอสโก ด้วยมาตรการขั้นที่ 3 และควบคุมการส่งออกอาวุธของรัสเซีย หลังเกิดหายนะขึ้นกับเที่ยวบิน MH17 จนผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตไปเกือบ 300 คน
ทว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การคว่ำบาตรภาคกลาโหมรัสเซีย จะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงซื้อขายเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น “มิสทราล” มูลค่า 1.2 พันล้านยูโร (ราว 5.3 หมื่นล้านบาท) ที่ฝรั่งเศสเตรียมจัดส่งให้แก่มอสโกหรือไม่