บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง มองกรอบลงทุนทองคำครึ่งปีหลัง 1,180-1,420 เหรียญต่อทรอยออนซ์ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของยูโรโซน และส่อแววลดดอกเบี้ยลงอีก บวกปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย และยูเครนยังไม่จบ บวกกับปัญหาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์หนุนนักลงทุนเข้าลงทุนทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แนะจับตาท่าทีเฟดต่อการลด QE กดดันราคาทองช่วงที่เหลือของปีนี้
นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX ประเมินทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลัง 2557 ว่า การเคลื่อนของราคาทองคำยังคงอยู่ในกรอบ 1,180-1,420 เหรียญต่อทรอยออนซ์ หลังจากมีการปรับตัวลงกว่า 38% จากจุดสูงสุดที่ 1,920 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และมีจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,180 เหรียญต่อทรอยออนซ์
“เชื่อว่าราคาให้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของทางยูโรโซน ที่อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว” นายโสฬส กล่าว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังต้องจับตาความขัดแย้งระหว่างประเทศยูเครน และยูเครนตะวันออกซึ่งฝักใฝ่รัสเซีย เพราะหากขยายตัวเป็นปัญหาระหว่างประเทศจะส่งให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย สำหรับปัญหาทางอิสราเอล ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อฉนวนกาซาเป็นระยะเวลา 4 วัน ได้เพิ่มขึ้นเป็น 118 ราย ยังเป็นตัวหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย
กรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก กล่าวถึงปัจจัยที่กดดันราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลัง คือ ความกังวลเกี่ยวกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะเดินหน้าปรับลดวงเงินอัดฉีดสภาพคล่องผ่านมาตรากรผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือมาตรการ QE ลงจนสิ้นสุดมาตรการดังกล่าวภายในเดือนตุลาคม 2557 และช่วงครึ่งปีแรกทางกองทุน SPDR มีการขายลดสถานะออกมาเพียง 7 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2556 กองทุนดังกล่าวมีการขายลดสถานะถึง 380 ตัน ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากองทุนดังกล่าวได้ผ่านช่วงปรับพอร์ตการลงทุนไปแล้ว และในอนาคตคาดว่าจะไม่มีแรงขายขนาดใหญ่เหมือนในครึ่งปีแรกของปี 2556
“การลดมาตรการ QE ของเฟดที่จะทยอยปรับลดลงในทุกๆ ครั้งที่มีการประชุมจำนวน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้มาตรการดังกล่าวยุติลงในเดือนตุลาคม 2557 หลังจากมีการใช้มาตรการ QE มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นจะส่งผลให้เม็ดเงินไหลกลับสู่สหรัฐฯ และส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันต่อราคาทองคำได้” นายโสฬส กล่าว
อีกทั้ง นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด แถลงต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะจบโครงการในฤดูใบไม้ร่วงนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวตามเป้าหมาย และเธอยังระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดว่านโยบายอัตราดอกเบี้ยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในปี 2558 หรือ 2559
กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ กล่าวถึงราคาทองในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 ว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,180-1,420 เหรียญต่อทรอยออนซ์ โดยเริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปี ซึ่งไดรับแรงหนุนจากธนาคารกลางยุโรปพร้อมที่จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น และนักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังรัฐสภาของไครเมีย มีมติรับคำประกาศอิสรภาพจากยูเครน โดยผลการนับคะแนนบ่งชี้ว่า 95.5% ของชาวไครเมียที่ไปใช้สิทธิลงประชามติ ต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับรัสเซีย
ขณะที่สหรัฐฯ และประชาคมโลกจะไม่ยอมรับผลดังกล่าว ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้ยกเลิกการเจรจาทางการค้า และการแลกเปลี่ยนทางการทหารกับรัสเซีย และยังอนุมัติให้ระงับวีซ่า และอายัดสินทรัพย์ของชาวรัสเซีย และชาวยูเครนหลายราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่รัสเซียส่งทหารเข้าไปในไครเมีย
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในทองคำช่วงครึ่งปีหลัง 2557 ดังนี้ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำให้เล่นเก็งกำไรในกรอบ 1,180-1,420 เหรียญต่อทรอยออนซ์ โดยซื้อที่แนวรับและขายออกที่แนวต้าน ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำให้ทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาปรับตัวลงมาในกรอบ 1,180-1,250 เหรียญต่อทรอยออนซ์ เนื่องจากในระยะยาวราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากที่ธนาคารกลางต่างๆ ได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง