เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่อเมริกันเปิดเผยวานนี้ (28 ก.ค.) ว่าบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพสหรัฐฯ กำลังหารือกันว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่สหรัฐฯ จะจัดหาข่าวกรองที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้นให้แก่ยูเครน เพื่อช่วยให้ประเทศนี้สามารถตั้งเป้าโจมตีขีปนาวุธของกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียได้
อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ จะยังไม่ผลีผลามตัดสินใจในเร็ววันนี้ โดยเจ้าหน้าที่บางส่วนกังวลว่า การทำเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบให้วิกฤตขัดแย้งระหว่างยูเครนกับกลุ่มติดอาวุธนิยมมอสโกกลับยิ่งทวีความร้อนระอุ
เจ้าหน้าที่กลาโหมคนหนึ่งซึ่งขอสงวนนามกล่าวว่า “เรื่องนี้คือหนึ่งในประเด็นที่จะมีการหารือกัน” โดยเป็นการระบุถึงความเป็นไปได้ที่แดนอินทรีจะแบ่งปันข่าวกรองให้แก่ยูเครน
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวกับเอเอฟพีว่า “ในภาพรวมการหารือครั้งนี้มุ่งพิจารณาว่าเราจะสามารถช่วยเหลือชาวยูเครนได้อย่างไรบ้าง” ขณะที่เขาระบุเพิ่มเติมว่า การให้ข้อมูล ที่อาจช่วยให้กองกำลังยูเครนสามารถโจมตีกลุ่มนักรบหนุนรัสเซียทางภาคตะวันออกของประเทศ แก่กองกำลังของรัฐบาลเคียฟ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยง”
ตอนแรกหนังสือพิมพ์ “นิวยอร์กไทม์ส” รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และบรรดาหน่วยงานสายลับกำลังพิจารณาว่าจะแบ่งปันข่าวกรองที่ถูกต้องแม่นยำ และรวดเร็วฉับไวยิ่งขึ้นแก่กรุงเคียฟ เพื่อให้กองทัพยูเครนสามารถติดตามค้นหาขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเครื่องมือที่กลุ่มติดอาวุธใช้สอยเครื่องบินทหารยูเครนร่วงลงมาหลายลำ
นิวยอร์กไทม์สฉบับสุดสัปดาห์รายงานว่า ทำเนียบขาวยังคงต้องจัดการอภิปรายในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อพูดคุยกันถึงประเด็นดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนที่สองมองข้ามความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะตัดสินใจจัดหาข่าวกรองให้ยูเครน โดยสำทับว่าอาจก่อให้เกิดอันตราย
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวโดยไม่เปิดเผยตัวตนว่า “วอชิงตันยังมีอาวุธยุทโธปกรณ์ไม่มากพอที่จะใช้รับมือกับอิทธิพลของรัสเซีย”
เจ้าหน้าที่ผู้นี้ชี้ด้วยว่า “ยิ่งเราส่งอาวุธให้ยูเครนมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่รัสเซียจะยกระดับบทบาทให้รุนแรงยิ่งขึ้น”
ในเวลานี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้จัดหาข่าวกรองแบบจำกัดให้ยูเครน และหลีกเลี่ยงการส่งมอบอาวุธแก่กรุงเคียฟ
วอชิงตันเน้นใช้วิธีการทางทูต ด้วยการเรียกร้องให้เหล่าชาติพันธมิตรในยุโรปคว่ำบาตรรัสเซียให้รุนแรงขึ้น โดยตั้งความหวังว่า วิธีนี้จะบีบให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยอมเปลี่ยนจุดยืนอันแน่วแน่ต่อวิกฤตการณ์ยูเครน
วานนี้ (28) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า รัสเซียยังเดินหน้าเสริมกำลังทหารตามแนวพรมแดนติดกับยูเครนไม่หยุดหย่อน รวมทั้งยังส่งอาวุธและฝึกวิชาทหารให้กลุ่มติดอาวุธในพื้นที่พักพลหลักนอกแคว้นรอสตอฟ
พ.อ.สตีเวน วอร์เรน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมบอกได้เลยว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนเราเห็นขบวนพาหนะของรัสเซียกว่า 100 คันเคลื่อนตัวเข้ายูเครน”
ขบวนยานพาหนะดังกล่าวมีจำนวนมากผิดปกติ จนทำให้สหรัฐฯ กังวลมากขึ้นว่า รัสเซียกำลังมีแผนจะทำอะไรทั้งในและโดยรอบยูเครน
นอกจากนี้ บรรดากลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าใช้ขีปนาวุธ SA-11 ยิงเครื่องบินของสายการบิน “มาเลเซียแอร์ไลน์ส” ตกทางภาคตะวันออกของประเทศ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม โดยพวกเขาถูกกล่าวหาว่า ทำผิดพลาดระหว่างที่เล็งเป้าเล่นงานเครื่องบินทหารของยูเครน