xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ หารือเข้มแผนส่ง “ข่าวกรอง” ให้ยูเครน หวังชี้จุด “มิสไซล์กบฏ” หลังบินรบถูกสอยร่วงหลายลำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพ) ขบวนรถถังของกองกำลังยูเครนเคลื่อนเข้าสู่เมืองลืยซืยชันสค์ แคว้นลูกันสค์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อวันศูกร์ (25 ก.ค.) เมื่อกองทัพยูเครนสามารถปราบปรามกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียในเมืองนี้ได้สำเร็จ
เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่อเมริกันเปิดเผยวานนี้ (28 ก.ค.) ว่าบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพสหรัฐฯ กำลังหารือกันว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่สหรัฐฯ จะจัดหาข่าวกรองที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้นให้แก่ยูเครน เพื่อช่วยให้ประเทศนี้สามารถตั้งเป้าโจมตีขีปนาวุธของกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียได้

อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ จะยังไม่ผลีผลามตัดสินใจในเร็ววันนี้ โดยเจ้าหน้าที่บางส่วนกังวลว่า การทำเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบให้วิกฤตขัดแย้งระหว่างยูเครนกับกลุ่มติดอาวุธนิยมมอสโกกลับยิ่งทวีความร้อนระอุ
(แฟ้มภาพ) สมาชิกกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียคลอเคลียกับลูกแมวบนไหล่ ระหว่างยืนประจำการ ณ จุดตรวจทางเหนือของเมืองโดเนสค์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 ก.ค.)
เจ้าหน้าที่กลาโหมคนหนึ่งซึ่งขอสงวนนามกล่าวว่า “เรื่องนี้คือหนึ่งในประเด็นที่จะมีการหารือกัน” โดยเป็นการระบุถึงความเป็นไปได้ที่แดนอินทรีจะแบ่งปันข่าวกรองให้แก่ยูเครน

เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวกับเอเอฟพีว่า “ในภาพรวมการหารือครั้งนี้มุ่งพิจารณาว่าเราจะสามารถช่วยเหลือชาวยูเครนได้อย่างไรบ้าง” ขณะที่เขาระบุเพิ่มเติมว่า การให้ข้อมูล ที่อาจช่วยให้กองกำลังยูเครนสามารถโจมตีกลุ่มนักรบหนุนรัสเซียทางภาคตะวันออกของประเทศ แก่กองกำลังของรัฐบาลเคียฟ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยง”

ตอนแรกหนังสือพิมพ์ “นิวยอร์กไทม์ส” รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และบรรดาหน่วยงานสายลับกำลังพิจารณาว่าจะแบ่งปันข่าวกรองที่ถูกต้องแม่นยำ และรวดเร็วฉับไวยิ่งขึ้นแก่กรุงเคียฟ เพื่อให้กองทัพยูเครนสามารถติดตามค้นหาขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเครื่องมือที่กลุ่มติดอาวุธใช้สอยเครื่องบินทหารยูเครนร่วงลงมาหลายลำ

นิวยอร์กไทม์สฉบับสุดสัปดาห์รายงานว่า ทำเนียบขาวยังคงต้องจัดการอภิปรายในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อพูดคุยกันถึงประเด็นดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนที่สองมองข้ามความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะตัดสินใจจัดหาข่าวกรองให้ยูเครน โดยสำทับว่าอาจก่อให้เกิดอันตราย

เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวโดยไม่เปิดเผยตัวตนว่า “วอชิงตันยังมีอาวุธยุทโธปกรณ์ไม่มากพอที่จะใช้รับมือกับอิทธิพลของรัสเซีย”

เจ้าหน้าที่ผู้นี้ชี้ด้วยว่า “ยิ่งเราส่งอาวุธให้ยูเครนมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่รัสเซียจะยกระดับบทบาทให้รุนแรงยิ่งขึ้น”

ในเวลานี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้จัดหาข่าวกรองแบบจำกัดให้ยูเครน และหลีกเลี่ยงการส่งมอบอาวุธแก่กรุงเคียฟ

วอชิงตันเน้นใช้วิธีการทางทูต ด้วยการเรียกร้องให้เหล่าชาติพันธมิตรในยุโรปคว่ำบาตรรัสเซียให้รุนแรงขึ้น โดยตั้งความหวังว่า วิธีนี้จะบีบให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยอมเปลี่ยนจุดยืนอันแน่วแน่ต่อวิกฤตการณ์ยูเครน

วานนี้ (28) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า รัสเซียยังเดินหน้าเสริมกำลังทหารตามแนวพรมแดนติดกับยูเครนไม่หยุดหย่อน รวมทั้งยังส่งอาวุธและฝึกวิชาทหารให้กลุ่มติดอาวุธในพื้นที่พักพลหลักนอกแคว้นรอสตอฟ

พ.อ.สตีเวน วอร์เรน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมบอกได้เลยว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนเราเห็นขบวนพาหนะของรัสเซียกว่า 100 คันเคลื่อนตัวเข้ายูเครน”

ขบวนยานพาหนะดังกล่าวมีจำนวนมากผิดปกติ จนทำให้สหรัฐฯ กังวลมากขึ้นว่า รัสเซียกำลังมีแผนจะทำอะไรทั้งในและโดยรอบยูเครน

นอกจากนี้ บรรดากลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าใช้ขีปนาวุธ SA-11 ยิงเครื่องบินของสายการบิน “มาเลเซียแอร์ไลน์ส” ตกทางภาคตะวันออกของประเทศ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม โดยพวกเขาถูกกล่าวหาว่า ทำผิดพลาดระหว่างที่เล็งเป้าเล่นงานเครื่องบินทหารของยูเครน
ชาวบ้านในเมืองลืยซืยชันสค์ แคว้นลูกันสค์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน เดินผ่านยานลำเลียงพลหุ้มเกราะของกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียที่เสียหายไหม้เกรียมเมื่อวันจันทร์ (28 ก.ค) ภายหลังเกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังของรัฐบาลยูเครน กับกลุ่มติดอาวุธในเมืองดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น