โสมแดงใหญ่คับฟ้า ขู่จะยิงนิวเคลียร์ใส่ทำเนียบขาว-เพนตากอน

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพเกาหลีเหนือขู่ว่าจะยิงนิวเคลียร์ใส่ทำเนียบขาวกับกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เพราะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มสูงขึ้น

คำขู่ดังกล่าวออกมาจากปากของ “ฮวาง เปียงโซ” ผู้บัญชาการกรมการเมืองใหญ่ของกองทัพเกาหลีเหนือ ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อทหารจำนวนมากที่มารวมตัวกันในกรุงเปียงยางเมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.ค.) เนื่องในโอกาสครบรอบ 61 ปีของการทำข้อตกลงหยุดยิง ที่ทำให้สงครามเกาหลี ช่วงปี 1950 - 1953 สิ้นสุดลง

ฮวาง ผู้ครองยศเป็นรองจอมพลในกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ ได้กล่าวถึงการฝึกซ้อมรบร่วมกันหลายครั้งของเกาหลีใต้ - สหรัฐฯ ในช่วงหลังๆ ซึ่งครั้งล่าสุดมีการใช้เรือบรรทุกเครื่องบินที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ว่าคือตัวการที่ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น

“ถ้าพวกจักรวรรดินิยมสหรัฐฯ คุกคามอธิปไตยและการคงอยู่ของเรา กองทัพของเราก็จะยิงจรวดนิวเคลียร์เข้าใส่ทำเนียบขาวและเพนตากอน ที่เป็นต้นตอแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง” คำปราศรัยของฮวาง ถูกนำมาออกอากาศในวันจันทร์ (28 ก.ค.) โดยสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกาหลีเหนือใช้คำพูดก้าวร้าวข่มขู่ว่าจะยิงนิวเคลียร์ใส่สหรัฐอเมริกาและฐานทัพสหรัฐฯ ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก

ถึงกระนั้น ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อว่า เกาหลีเหนือคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปที่มีระยะทำการได้ไกลขนาดนั้น

ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือเคยทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ 3 ครั้ง แต่คาดว่าน่าจะยังไม่เชี่ยวชาญเทคนิคการย่อส่วนที่จำเป็นในการติดหัวรบนิวเคลียร์เข้ากับขีปนาวุธ

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังทำการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลางไปตกลงในทะเลญี่ปุ่นหลายครั้งในช่วงหลังๆ ซึ่งขีปนาวุธเหล่านี้มีระยะทำการที่สามารถใช้โจมตีเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้

ในการทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ระบุว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้ได้รับการชี้นำจากผู้นำเกาหลีเหนือ “คิม จองอึน” ที่จำลองสถานการณ์ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้เข้าใส่ฐานทัพในเกาหลีที่มีทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ 28,500 คน

การกระทำครั้งนั้น ถือว่าเป็นการท้าทายมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ออกมาประณามเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สำหรับการทดสอบยิงขีปนาวุธในช่วงหลังๆ ที่เป็นการละเมิดมติยูเอ็นก่อนหน้านี้ ที่เคยห้ามเกาหลีเหนือไม่ให้ใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธนำวิถี