เอเอฟพี - วันนี้ (27 ก.ค.) สื่อเกาหลีเหนือออกมาเปิดเผยว่าการฝึกซ้อมยิงจรวดเมื่อวันเสาร์ (26 ก.ค.) ได้รับการชี้นำโดยผู้นำโสมแดง “คิม จองอึน” ทั้งนี้ การทดสอบดังกล่าว หลายฝ่ายมองว่าเป็นการกระทำที่ท้าทายมติห้ามของสหประชาชาติ
การยิงจรวดของเกาหลีเหนือเมื่อวันเสาร์ (26 ก.ค.) นับเป็นครั้งแรกหลังจากที่ทางคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติได้ออกมาตำหนิเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธนำวิถีหลายครั้งในช่วงหลังๆ ที่ละเมิดมติของยูเอ็น
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ได้ออกมาระบุในวันนี้ (27 ก.ค.) ว่าการยิงจรวดของกองทัพครั้งล่าสุดนี้ เป็นการฝึกซ้อมยิงจรวดโดยจำลองสถานการณ์ว่ากำลังยิงฐานทัพในเกาหลีใต้ที่มีทหารของสหรัฐฯ 28,500 คนประจำการอยู่
เคซีเอ็นเอ ระบุว่า คิมตรวจสอบแผนการยิงจรวด ซึ่งจัดทำขึ้นโดยพิจารณาจากตำแหน่งปัจจุบันของ “ฐานทัพกองทหารจักรวรรดินิยมสหรัฐฯ ผู้รุกราน” ภายใต้สถานการณ์จำลองของสมรภูมิ ที่จะต้องยิงเพื่อทำลายผู้รุกรานเหล่านั้น ก่อนที่จะมีการชี้แนะเกี่ยวกับการฝึกซ้อม
การยิงจรวดครั้งนี้ ยังเป็นความตั้งใจในเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากวันที่ 27 กรกฎาคม เป็นวันที่มีการทำข้อตกลงหยุดยิง ทำให้สงครามเกาหลีช่วงปี 1950 - 1953 สิ้นสุดลง
ทางเคซีเอ็นเอไม่เปิดเผยที่ตั้งของสถานที่ฝึกซ้อม แต่กองทัพเกาหลีใต้ ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ลงไปในทะเลเมื่อคืนวันเสาร์ (26 ก.ค.)
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธและจรวดอยู่บ่อยครั้ง เพื่อแสดงอำนาจหรือแสดงความไม่พอใจเวลาที่รู้สึกว่าถูกยั่วยุ แต่การยิงในช่วงหลังๆ ที่ค่อนข้างถี่ นับว่าเป็นเรื่องไม่ปกติ
โฆษกของทัพเกาหลีใต้บอกกับเอเอฟพีว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ไปตกลงในทะเลตะวันออก (ทะเลญี่ปุ่น) ตอนเวลา 21.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น (19.40 น. ตามเวลาประเทศไทย) ของคืนวันเสาร์ (26 ก.ค.) โดยขีปนาวุธที่มีระยะทำการ 500 กิโลเมตร ถูกยิงออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ จากจุดยิงบริเวณแหลมจางซาน ชายฝั่งตะวันตกของเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ การยิงขีปนาวุธในช่วงหลังๆ ของเกาหลีเหนือ มักจะยิงจากสถานที่ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนเกาหลีใต้ ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า เป็นความพยายามที่จะคุกคามเกาหลีใต้มากขึ้น
แนวพรมแดนทางทะเลของทั้งสองประเทศในทะเลเหลือง เป็นจุดที่เกิดเหตุนองเลือดจากการปะทะกันของกองทัพเรือทั้งสองฝ่ายอยู่หลายครั้ง โดยในปี 2010 เกาหลีเหนือได้ยิงเข้าใส่เกาะบริเวณชายแดน ทำให้มีชาวเกาหลีใต้ 4 ราย ซึ่งมี 2 รายที่เป็นพลเรือนเสียชีวิต
ทางด้านนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น “ชินโซ อาเบะ” ก็ออกมาระบุว่า ญี่ปุ่นต่อต้านอย่างแข็งขัน สำหรับการยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ
“เราจำเป็นต้องทำให้ทางเกาหลีเหนือรู้ว่า การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธนั้นไม่อาจเดินร่วมทางไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจได้” อาเบะ บอกกับนักข่าวระหว่างการเดินทางไปเม็กซิโก
ทั้งนี้ สหประชาชาติเคยมีมติห้ามเกาหลีเหนือ ไม่ให้ทำการยิงขีปนาวุธนำวิถี แต่หลังจากยูเอ็นตำหนิเกาหลีเหนือครั้งล่าสุด ก็ได้รับการตอบโต้อย่างเกรี้ยวกราดจากเกาหลีเหนือ ที่ระบุว่า “มันจะมากเกินไปแล้ว” พร้อมออกมาแก้ตัวว่า การยิงขีปนาวุธนั้นทำไปเพื่อตอบโต้พวกบ้าสงครามอย่างสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือพยายามจะเล่นทั้งบทผู้ร้ายและบทพระเอกควบคู่กันในช่วงหลังๆ โดยมีการยิงขีปนาวุธเป็นระยะๆ พร้อมกับการแสดงท่าทีอยากจะมีสันติภาพกับเกาหลีใต้ แต่ก็ถูกทางโสมขาวปฏิเสธ
นอกจากนี้ เกาหลีทั้งสองชาติ ก็กำลังพยายามร่วมมือกัน สำหรับเรื่องที่เกาหลีเหนือจะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ซึ่งจะเริ่มทำการแข่งขันกันในเดือนกันยายน ที่เมืองอินชอนของเกาหลีใต้
โฆษกกองทัพเกาหลีใต้ ระบุว่า กองทัพของเรามองว่าความต้องการของเกาหลีเหนือ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่กำลังจะมาถึงนั้น เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์แบบเดินไปทั้งสองด้าน ที่มีทั้งการใช้ไม้แข็งและไม้อ่อน