เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีเหนือยืนยันว่ากองทัพโสมแดงได้ทดลองยิงขีปนาวุธเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.) โดยผู้นำ คิม จองอึน เดินทางไปสังเกตการณ์ด้วยตนเอง ก่อนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนจะเดินทางเยือนเกาหลีใต้เพียงไม่กี่วัน
กองทัพเกาหลีใต้ ระบุว่า โสมแดงได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ “สกั๊ด” 2 ลูกลงสู่ทะเลญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ (29) โดยจรวดชนิดนี้สามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปถึง 500 กิโลเมตร
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือไม่ได้ระบุประเภทของขีปนาวุธที่ชัดเจน เพียงแต่บอกว่าเป็น “จรวดทางยุทธวิธี” และ “ขีปนาวุธนำวิถี”
เมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านั้น เคซีเอ็นเอก็ได้ตีแผ่รายงานเกี่ยวกับความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธ “ล้ำสมัย” ซึ่งจะเป็น “พัฒนาการก้าวสำคัญ” ต่อศักยภาพของกองทัพเกาหลีเหนือ
แม้เปียงยางจะโอ้อวดศักยภาพด้านขีปนาวุธอยู่เป็นประจำ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับระดับความก้าวหน้าในเทคโนโลยีมิสไซล์ของโสมแดง ระหว่างที่ถูกองค์การสหประชาชาติคว่ำบาตรอยู่
การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือแม้จะมีบ้างที่ทำไปด้วยจุดประสงค์ทางเทคนิค แต่ส่วนใหญ่นั้นต้องการโอ้อวดศักดา เวลาที่ผู้นำโสมแดงไม่พอใจท่าทีของต่างชาติ
การทดลองยิงจรวด 2 ครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ก่อนที่ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้จะได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับการมาเยือนของผู้นำจีน
จีนเป็นมหามิตรเพียงหนึ่งเดียวที่ให้การสนับสนุนทางด้านเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือ ดังนั้น การที่ สี่ จิ้นผิง เลือกไปเยือนเกาหลีใต้ก่อนเปียงยางในครั้งนี้ จึงถือเป็นการดูหมิ่นเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง
ตามรายงานของเคซีเอ็นเอ ผู้นำ คิม จองอึน ได้โต้แย้งว่า การทดลองขีปนาวุธ “ไม่ได้ส่งผลกระทบแม้แต่น้อย” ต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค และอันที่จริงอาจจะถือเป็นเครื่องการันตีเสถียรภาพเสียด้วยซ้ำ
“สันติภาพที่ยั่งยืนจะได้รับการปกป้อง ก็ต่อเมื่อคนๆ หนึ่งเข้มแข็งมากเสียจนไม่มีผู้ใดกล้ายั่วยุ ดังนั้น ความแข็งแกร่งจึงเป็นเครื่องการันตีสันติภาพได้” คิมกล่าว
สถานการณ์ชายแดนสองเกาหลีตึงเครียดหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าถูกยั่วยุก่อน
เมื่อเดือนมีนาคม กองทัพเกาหลีเหนือและใต้ได้สาดกระสุนปืนใหญ่ใส่กันนับร้อยลูกบริเวณน่านน้ำพิพาททางตะวันตก หลังจากที่โสมแดงได้ซ้อมยิงกระสุนจริงไปตกในเขตน่านน้ำของเกาหลีใต้