เอเอฟพี - เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในวันนี้ (27 มิ.ย.) สำหรับการทดสอบขีปนาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีที่เปี่ยมประสิทธิภาพและมีความแม่นยำสูง พร้อมทั้งขู่จะดำเนินการตอบโต้เกาหลีใต้อย่างรุนแรง กรณีที่มีการซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงใกล้กับเขตแดนทางทะเลของเกาหลีเหนือ
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือ ระบุว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ดูการทดสอบยิงขีปนาวุธที่มีประสิทธิภาพล้ำหน้าคราวนี้ พร้อมกับชี้ว่าการทดสอบครั้งนี้เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ด้านศักยภาพในการป้องกันประเทศ
ยังไม่เคยมีข่าวมาก่อนว่าเกาหลีเหนือครอบครองขีปนาวุธนำวิถีทางยุทธวิธี แต่จากการวิเคราะห์ภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อในช่วงหลังๆ บ่งชี้ว่าอาจจะเป็นขีปนาวุธนำวิถีที่ถูกปรับปรุงโดยได้ต้นแบบมาจาก เคเอช-35 ของรัสเซีย
เคซีเอ็นเอไม่ได้ระบุถึงเวลาที่ทำการทดสอบขีปนาวุธชนิดนี้ของเกาหลีเหนืออย่างชัดเจน แต่ก็สอดคล้องกับการรายงานของเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ที่ระบุว่ามีขีปนาวุธระยะใกล้จำนวน 3 ลูกถูกยิงจากเกาหลีเหนือไปตกลงในเขตน่านน้ำญี่ปุ่น
โรดอง ซินมุน หนังสือพิมพ์ของพรรคที่ปกครองเกาหลีเหนือได้ตีพิมพ์รูปภาพในฉบับวันศุกร์ที่แสดงให้ถึงการทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถีรุ่นใหม่นี้ โดยมีผู้นำคิมชมอยู่ด้วย
รายงานระบุว่า คิมได้ให้ความสำคัญกับอาวุธชิ้นนี้ ซึ่งเชื่อได้ว่าสามารถนำมาใช้ป้องกันตัวในลักษณะของการ “ชิงโจมตีก่อน”
คิม มินซอก โฆษกกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ระบุถึงการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้ว่า เป็นความพยายามที่จะพัฒนายกระดับระบบเครื่องยิงจรวดขนาดใหญ่ที่สามารถยิงได้ทีละหลายลูก (MRL) โดยมีการเพิ่มระยะหวังผลและระบบนำวิถีที่หลากหลายเข้าไปในขีปนาวุธ
ด้าน แมรี่ ฮาร์ฟ โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ออกมาระบุว่า กำลังตรวจสอบให้ชัดเจนเพื่อวินิจฉัยระดับของการเป็นภัยคุกคาม ถึงแม้ในทางเทคนิคแล้ว ไม่ว่าจะยิงอะไรออกมาก็ถือว่าเป็นปัญหา ถือเป็นภัยคุกคาม
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดี (26 มิ.ย.) ที่ผ่านมา กองทัพประชาชนของเกาหลีเหนือ ได้ออกคำแถลงผ่านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ประณามเกาหลีใต้ที่ทำการซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงใกล้กับเขตแดนทางทะเลที่เป็นพื้นที่พิพาทระหว่างทั้งสองชาติในทะเลเหลือง
การโจมตีทำลายล้าง
คำแถลงของเกาหลีเหนือระบุว่า การซ้อมยิงของเกาหลีใต้เป็นการยั่วยุแบบไม่ยั้งคิด พร้อมกับเตือนว่าหน่วยทหารที่อยู่บริเวณแนวหน้าของกองทัพประชาชนได้เสร็จสิ้นการเตรียมตัวสำหรับโจมตีทำลายล้างตอบโต้เกาหลีใต้ สิ่งเดียวที่รออยู่ก็คือการออกคำสั่งจากกองบัญชาการสูงสุด
ด้านกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะยืนยันว่ามีการฝึกซ้อมใดๆ หรือไม่ บอกเพียงแค่ว่าการฝึกทั่วไปในพื้นที่บริเวณดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นประจำ
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า เกาหลีเหนืออาจจะกำลังพยายามที่จะเพิ่มระดับความตึงเครียด ก่อนที่จะมีการเยือนเกาหลีใต้ของผู้นำจีน “สี จินผิง” ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
แต่ก็มีนักวิเคราะห์รายอื่นที่ระบุว่า การประกาศในวันนี้ของเกาหลีเหนือเป็นเพียงการอวดแสนยานุภาพทางการทหาร ในช่วงที่นานาชาติกำลังมองหาหนทางที่จะควบคุมโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
เคซีเอ็นเอ ระบุว่า การทดสอบถูกดำเนินการขึ้นในช่วงนี้ เพราะความพยายามจะแบ่งแยก บีบคั้นและปลุกปั่นให้เกิดสงครามอันเกิดจากการรุกรานของสหรัฐฯ และบรรดาหุ่นเชิดทั้งหลายนั้นพู่งสูงขึ้นกว่าเดิมมาก
ยุน ดุ๊กมิน ศาสตราจารย์ประจำสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความมั่นคงของชาติในกรุงโซล ระบุว่า การพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีของเกาหลีเหนือถือเป็นภัยทางการทหารที่เห็นได้ชัดเจนสำหรับเกาหลีใต้และฐานทัพสหรัฐฯ
อาวุธที่มีความแม่นยำสูงนี้อาจเป็นความพยายามที่จะนำมาเกทับการพัฒนาขีปนาวุธร่อนของเกาหลีใต้ที่มีการนำมาโชว์ในขบวนพาเหรดของกองทัพที่กรุงโซลช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ข้อมูลของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ระบุไว้ว่า ความแม่นยำของขีปนาวุธร่อน “ฮยอนมู 3” ของตนเองนั้นทำได้ถึงขนาดที่จะยิงเข้าไปในหน้าต่างออฟฟิศของกองบัญชาการใหญ่เกาหลีเหนือที่ตั้งอยู่ในกรุงเปียงยางได้เลยทีเดียว
ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีทั้ง 2 ชาตินั้นตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่เดือนหลังการฝึกซ้อมรบประจำปีของเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ที่ทางเกาหลีเหนือประณามว่า พยายามยั่วยุเกาหลีเหนือด้วยการฝึกซ้อมที่ดูเหมือนเตรียมไว้รุกราน
ก่อนที่จะมีการทดสอบขีปนาวุธชนิดใหม่นี้ เคยมีการคาดหวังว่าบรรยากาศระหว่างทั้ง 2 ชาติจะเริ่มสงบลง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีการพูดคุยกันเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน สำหรับการร่วมมือกันในเขตพื้นที่อุตสาหกรรมร่วมที่แกซอง
เนื่องจากสงครามระหว่างเกาหลีทั้ง 2 ฝ่ายช่วงปี 1950-1953 นั้นหยุดลงด้วยข้อตกลงหยุดยิง ไม่ใช่สัญญาสงบศึก ดังนั้น ในทางเทคนิคแล้วจึงถือว่าทั้ง 2 ฝ่ายยังทำสงครามกันอยู่