เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกโรงเตือนเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสเผชิญวิกฤตรอบใหม่ หลังเฟดเตรียมยกเลิก “คิวอี” พร้อมแนะคนอเมริกันเลิกใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและหันมาสร้าง “นิสัยการออม” เตรียมรับ “เหตุไม่คาดฝันทางเศรษฐกิจ” ในอนาคต
อลัน กรีนสแปน วัย 88 ปี อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve Chairman) เปิดเผยต่อสื่อดัง “มาร์เกตวอตช์” ที่สำนักงานของเขาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในวันพฤหัสบดี (24) โดยกรีนสแปนระบุว่า วิกฤตทางการเงินและเศรษฐกิจระลอกล่าสุดที่กลายเป็นเมฆหมอกดำมืดปกคลุมเศรษฐกิจสหรัฐฯมาตั้งแต่ปี 2008 จะ “ไม่ใช่วิกฤตเศรษฐกิจครั้งสุดท้าย”ที่สหรัฐฯต้องเผชิญ
กรีนสแปนซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเฟดยาวนานกว่า 18 ปีระหว่างปี ค.ศ. 1987-2006 ระบุว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยภาพรวมในเวลานี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่การฟื้นตัวโดยรวมยังคง “เปราะบาง” และ “ห่างไกลจากความยั่งยืน”
อดีตประธานเฟดซึ่งติดอันดับหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดทางการเงินของโลกรายนี้เตือนว่า แม้โดยส่วนตัวแล้วเขาคาดหวังว่าจะไม่เกิดผลกระทบที่รุนแรงมากนักต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากการตัดสินใจของเฟดที่จะยกเลิกการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างถาวร ภายในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
แต่ในความเป็นจริงแล้ว กรีนสแปนระบุว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงเศรษฐกิจโลกจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลยจากการสิ้นสุดลงของมาตรการดังกล่าวที่เฟดเริ่มใช้มาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2012 ที่มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเมืองลุงแซมอย่างมหาศาล
กรีนสแปนยังชี้ว่า ชาวอเมริกันควรหันมาให้ความสำคัญมากขึ้นกับการสร้าง “นิสัยแห่งการออม” แทนที่ “นิสัยแห่งการจับจ่าย” หลังตัวเลขเงินออมของครอบครัวชาวอเมริกันปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยอดีตประธานเฟดระบุ การมี “เงินออม” อาจเป็นเพียง “ทางรอดเดียว” หากเศรษฐกิจสหรัฐฯมีอันต้องถลำลงสู่หุบเหวแห่งหายนะอีกในอนาคต
“ผมไม่สามารถทำนายได้ว่าสหรัฐฯ จะเผชิญวิกฤตทางเศรษฐกิจอีกครั้งเมื่อใด แต่ที่ผมสามารถยืนยันได้แน่นอน คือ การมีเงินออม และการรู้จักใช้เงินอย่างชาญฉลาด จะเป็นเกราะกำบังให้กับคุณได้เป็นอย่างดี หากวันแห่งหายนะนั้นมาถึงอีกในอนาคต” กรีนสแปนกล่าว
