เอเอฟพี - กระแสข่าวลือเรื่องสึนามิซัดเข้าฝั่งสร้างความโกลาหลแตกตื่นแก่ชาวบ้านหลายร้อยคนในฟิลิปปินส์ และทำให้หญิงสูงวัยคนหนึ่งถึงกับหัวใจวายเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนฟิลิปปินส์เผยวันนี้ (23)
เฮนรี บูซาร์ หัวหน้าสภาจัดการภัยพิบัติประจำพื้นที่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบหาต้นตอข่าวลือสึนามิที่สร้างความตื่นตระหนกต่อประชาชนในเขตเทศบาลเมืองคันเดลาเรีย จังหวัดเกซอน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางใต้ราว 88 กิโลเมตร รวมถึงเมืองใกล้เคียง
บูซาร์ อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลซึ่งระบุว่า หญิงชราวัย 63 ปีคนหนึ่งหัวใจวายเสียชีวิต ขณะขับรถมอเตอร์ไซค์เพื่อหนีเอาชีวิตรอดจากสึนามิที่เธอคิดว่ากำลังจะซัดถล่มเมือง
“เราไม่ทราบจริงๆ ว่าข่าวลือนี้มาจากไหน ทราบแต่เพียงว่า มีชาวบ้านจำนวนมากอพยพออกจากเมือง” เมื่อค่ำวันอังคาร (22)
“สถานการณ์เป็นไปอย่างโกลาหล ผมบอกเจ้าหน้าที่ของเราให้สกัดประชาชนไว้ และแจ้งให้พวกเขาทราบว่าข่าวลือไม่เป็นความจริง แต่คนของเราห้ามชาวบ้านไว้ไม่อยู่”
บูซาร์ระบุด้วยว่า ชาวบ้านเกือบ 1,000 คนที่แออัดอยู่บนรถบรรทุกและรถมินิบัสต่างมุ่งหน้ามายังศาลาว่าการเมืองคันเดลาเรีย แต่เมื่อทราบว่าไม่ได้เกิดสึนามิ พวกเขาก็ทยอยเดินทางกลับบ้านไปหมดในเวลา 2-3 ชั่วโมง
บูซาร์ยอมรับว่า รู้สึกแปลกใจอย่างยิ่งที่ประชาชนพากันอพยพ ทั้งๆ ที่ไม่มีรายงานแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ซึ่งอาจจะก่อคลื่นสึนามิ และผู้อพยพส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อาศัยอยู่ริมชายหาดด้วย
เจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติคาดเดาว่า ท้องฟ้าที่มืดครึ้มและฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นมัตโม (Matmo) รวมถึงข้อความเตือนซึ่งถูกส่งต่อๆ กันผ่านระบบ SMS น่าจะเป็นสาเหตุให้ชาวบ้านสับสนและแห่อพยพออกจากบ้านเรือน ทั้งที่ไต้ฝุ่นมัตโมไม่ได้พัดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ด้วยซ้ำ
หมู่เกาะฟิลิปปินส์ต้องเผชิญพายุขนาดใหญ่ปีละประมาณ 20 ลูก และยังเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง
ภัยธรรมชาติครั้งล่าสุดที่สร้างความเสียหายต่อแดนตากาล็อก คือ ไต้ฝุ่นรามสูร (Rammasun) ซึ่งพัดถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทำให้มีผู้เสียชีวิต 98 ราย สูญหายอีก 5 คน
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่บริเวณตอนกลางของฟิลิปปินส์คร่าชีวิตประชาชนไปราว 200 คนเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และในเดือนถัดมาซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน” ก็ก่อให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งรุนแรงไม่ต่างจากสึนามิ ทำให้ชาวบ้านสังเวยชีวิตและสูญหายไปอีกราว 7,300 ราย