เอเอฟพี - บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของฟิลิปปินส์วันนี้ (20 ก.ค.) ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่น “รามสูร” ในฟิลิปปินส์ได้ทะยานขึ้นสู่ 94 ราย ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 6 คน ในเวลาเดียวกับที่พายุอีกลูกพัดหอบฝนเข้าไปในพื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายหนักจากรามสูร
ทางการแดนตากาล็อกเปิดเผยรายงานยอดผู้เสียชีวิต ขณะที่เหล่าช่างไฟฟ้ากำลังพยายามกู้ระบบไฟฟ้าคืนให้แก่บ้านเรือนหลายแสนหลัง ซึ่งถูกตัดขาดจากพลังงานไฟฟ้า นับตั้งแต่ถูกพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
มีนา มาราซิกัน โฆษกของสภาลดความเสี่ยงและบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์ชี้ว่า “คนส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการถูกซากปรักหักพังที่ปลิวหรือหล่นลงมา และต้นไม้โค่นล้มใส่ ขณะที่ผู้สูญหายจำนวนมากอันตรธานหายไปขณะแล่นเรือออกไปในทะเล” ทั้งที่เกิดพายุอยู่
เธอกล่าวกับเอเอฟพีว่า นับแต่นั้นมารามสูรก็เคลื่อนตัวเข้าสู่ตอนใต้ของจีน แต่แล้วก็มีพายุโซนร้อนชื่อ “มัตโม” ซึ่งหอบเอาลมความเร็ว 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าเดิม เข้าซ้ำเติมพื้นที่ประสบภัยใต้ฝุ่นเก่า
บริษัท มะนิลา อิเล็กทริก ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายกระแสไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์แถลงว่า มีบ้านเรือนกว่า 400,000 หลังในพื้นที่กรุงมะนิลา ยังคงขาดแคลนไฟฟ้าใช้มาตั้งแต่ถูกพายุไต้ฝุ่นลูกแรกของปีพัดถล่มเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (16)
ทั้งนี้ ในแต่ละปีฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุลูกใหญ่ๆ ราว 20 ลูก โดยพายุจำนวนมากสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงให้แก่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ซึ่งมักกลายเป็นด่านแรกที่ต้องตั้งรับกับพายุ ซึ่งก่อตัวขึ้นในน่านน้ำอบอุ่นของมหาสมุทรแปซิฟิก
เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน” ก่อให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 7 เมตร ซึ่่งพัดทำลายพื้นที่ชายฝั่งของเกาะซามาร์ และเกาะเลย์เต ทางตะวันออกของประเทศจนเสียหายย่อยยับ และคร่าชีวิตชาวแดนตากาล็อกไปถึง 7,300 คน โดยนับเป็นหนึ่งในภัยธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดที่ประเทศนี้เคยประสบ
สถานีอุตุนิยมวิทยาของรัฐบาลเปิดเผยว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นมัตโม ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านตอนเหนือสุดของเกาะลูซอน ราววันอังคารที่จะถึงนี้ (22)
