เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - พายุไต้ฝุ่น “รามสูร” ทำกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์เป็นอัมพาตในวันพุธ (16) รัฐบาลแดนตากาล็อกสั่งเตรียมความพร้อมรับมือระดับสูงสุด ชี้อาจเป็นพายุลูกที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบหลายปีที่พัดถล่มเมืองหลวงของประเทศ ล่าสุดมีการยืนยันพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 ราย
ข้อมูลจากสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ยืนยันว่า ในขณะนี้ความเร็วลมที่ศูนย์กลางของพายุไต้ฝุ่นรามสูรได้พุ่งทะลุ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปแล้ว และอิทธิพลของมันก่อให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักทั่วกรุงมะนิลาและหลายเมืองที่อยู่โดยรอบ ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่า ทางการฯ ต้องประกาศงดจ่ายกระแสไฟฟ้าในหลายพื้นที่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
ด้านประธานาธิบดีเบนินโญ “นอยนอย” อากีโน ผู้นำฟิลิปปินส์ สั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับการมาถึงของไต้ฝุ่นรามสูรในระดับสูงสุด พร้อมแสดงความกังวลว่า กรุงมะนิลา ที่เป็นบ้านของประชาชนมากกว่า 12 ล้านชีวิต อาจต้องเผชิญกับหายนะครั้งเลวร้ายจากพายุดังกล่าว ที่คาดว่าจะเป็นพายุที่มีความรุนแรงสูงที่สุดที่พัดถล่มเมืองหลวงของประเทศแบบจังเบอร์
ล่าสุดมีการยืนยันพบผู้เสียชีวิตรายแรกที่ตกเป็นเหยื่อไต้ฝุ่นรามสูรแล้ว เป็นสตรีรายหนึ่งบนเกาะซามาร์ทางภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์ หลังจากที่เธอถูกเสาไฟฟ้าที่ต้านทานพายุไม่ไหวหักโค่นลงมาทับ อย่างไรก็ดี หลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกเพียงไม่กี่ชั่วโมง ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 11 ราย
ขณะเดียวกัน ทางการฟิลิปปินส์เผยว่า ยังคงไม่พบร่างของชาวประมง 3 คนที่สูญหายไปในทะเล ขณะออกไปจับปลานอกชายฝั่งทางตะวันออกก่อนหน้านี้ และคาดว่าทั้งหมดอาจเสียชีวิตแล้ว
ด้านกอราซอน โซลิมัน รัฐมนตรีกระทรวงสวัสดิการสังคมของฟิลิปปินส์ ออกมายอมรับว่ามีประชาชนมากกว่า 450,000 รายต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนและเข้าพักตามศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยคาดว่าจำนวนผู้อพยพจากผลพวงของพายุไต้ฝุ่นรามสูรอาจเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอีกใน 24 ชั่วโมงจากนี้
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พื้นที่ภาคกลางของฟิลิปปินส์เพิ่งเผชิญหายนะครั้งใหญ่จากการพัดถล่มของ “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ไห่เยี่ยน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7,300 ราย
