เอเอฟพี - มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ไมเคิล บลูมเบิร์ก ประกาศเมื่อวานนี้ (22 ก.ค.) ว่า ตนกำลังจะขึ้นเครื่องบินไปยังกรุงเทลอาวีฟเพื่อให้กำลังใจรัฐบาลอิสราเอล หลังจากที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ได้มีคำสั่งห้ามสายการบินอเมริกันเข้า-ออกสนามบินเบนกูเรียนในกรุงเทลอาวีฟอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ท่าทีแข็งขืนของ บลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เมืองซึ่งมีประชากรเชื้อสายยิวมากที่สุดในสหรัฐฯ สร้างความอึดอัดแก่รัฐบาลวอชิงตันซึ่งสนับสนุนคำสั่งของเอฟเอเอ เพื่อปกป้องชีวิตชาวอเมริกันที่อาจตกเป็นเป้าโจมตีของจรวดที่ยิงมาจากกลุ่มฮามาส
บลูมเบิร์ก เรียกร้องให้ เอฟเอเอ ยกเลิกคำสั่งห้ามบินในทันที โดยชี้ว่าเป็นการหยิบยื่น “ชัยชนะที่ไม่คู่ควร” ให้แก่กลุ่มฮามาสซึ่งได้ยิงจรวดต่อสู้กับรัฐยิวมานานกว่า 2 สัปดาห์
มหาเศรษฐีรายนี้ได้โพสต์ข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของเขาว่า กำลังจะขึ้นเครื่องบินของสายการบินอิสราเอล
“เย็นวันนี้ผมจะเดินทางกับสายการบิน EL AL ไปยังกรุงเทลอาวีฟ เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวอิสราเอล และเพื่อแสดงให้เห็นว่าการบินเข้า-ออกอิสราเอลยังมีความปลอดภัย”
บลูมเบิร์กชี้ว่า สนามบินนานาชาติ เบน กูเรียน ในกรุงเทลอาวีฟ “มีความปลอดภัยมากที่สุดในโลก” และสายการบิน EL AL ยังคงให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ตามปกติ แม้ว่าประเทศในยุโรปและอเมริกาเหนือจะสั่งระงับเที่ยวบินชั่วคราวก็ตาม
“คำสั่งห้ามบินถือเป็นความผิดพลาดที่หยิบยื่นชัยชนะอันไม่สมควรให้แก่กลุ่มฮามาส และสมควรถูกยกเลิกทันที” บลูมเบิร์กกล่าว
“ผมขอเรียกร้องอย่างจริงจังให้ เอฟเอเอ ทบทวนคำสั่งใหม่ และอนุญาตให้สายการบินของสหรัฐฯ เดินทางเข้า-ออกอิสราเอลได้ตามปกติ”
สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ สั่งให้สายการบินอเมริกันระงับเที่ยวบินไปยังเทลอาวีฟอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หลังจรวดลูกหนึ่งซึ่งยิงจากฉนวนกาซามาตกใกล้ๆ กับสนามบินหลักของเมือง
รัฐบาลอิสราเอลได้ติดต่อไปยังสายการบินของสหรัฐฯ เพื่อยืนยันว่าการบินขึ้น-ลงจากสนามบิน เบน กูเรียน ยังคงมีความปลอดภัยไร้ความเสี่ยง
ด้าน จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ได้ยืนยันกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลว่า คำสั่งระงับเที่ยวบินของ เอฟเอเอ มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องสวัสดิภาพของพลเมืองอเมริกันเท่านั้น
การยิงจรวดตอบโต้ระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 630 คน ขณะที่รัฐยิวสูญเสียกำลังพลไป 29 นาย
บลูมเบิร์ก ซึ่งเคยเป็นสมาชิกทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กอยู่นานถึง 3 สมัย และเป็นหนึ่งในบุคคลร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ