เอเอฟพี - นักท่องเที่ยวชาวตุรกีสองรายเสียชีวิตจากกระแสน้ำหลากที่ไหลท่วมหุบเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทางตะวันตกของตุรกี ขณะที่นายกเทศมนตรีของพื้นที่ดังกล่าวก็บอกว่าการเสียชีวิตของพวกเขาเป็น "ประสงค์ของพระเจ้า"
ฝนที่ตกหนักนอกฤดูกาลได้ก่อให้เกิดกระแสน้ำหลากเข้าท่วมหุบเขาซัคลิเคนท์เมื่อวันอาทิตย์ (20 ก.ค.) ในเขตพื้นที่มักลา บริเวณชายฝั่งทะเลอีเจียนของตุรกี ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงหน้าร้อน
เว็บไซต์ข่าว เฮอร์ริเยท เดลี่ ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวชาวตุรกีรายหนึ่งเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ในขณะที่หน่วยกู้ภัยดึงตัวเขาขึ้นมาจากน้ำ หลังจากที่ถูกน้ำพัดไปกระแทกเข้ากับก้อนหิน ส่วนอีกรายเสียชีวิตจากการจมน้ำ ถูกพบศพในวันนี้ (21 ก.ค.)
เฮอร์ริเยทระบุอีกว่า นักท่องเที่ยวชาวตุรกีเกือบ 50 ราย ได้รับการช่วยเหลือจากพื้นที่หุบเขาดังกล่าว ขณะที่อีก 8 รายที่พยายามจะกระโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วยคนอื่น ก็ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเช่นกัน
ด้านนายกเทศมนตรีของพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคยุติธรรมและการพัฒนา (เอเคพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลตุรกีชุดปัจจุบัน ได้ระบุว่า กระแสน้ำหลากที่ผิดธรรมชาติครั้งนี้คือประสงค์ของพระเจ้า
สำนักข่าวโดกันนิวส์ รายงานคำพูดของยาคุป ออทกอส นายกเทศมนตรีเขตเซย์ดิเกเมอร์ ที่ระบุว่า น้ำท่วมแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในปีนี้ ครั้งล่าสุดที่มีเหตุการณ์คล้ายกันก็คือเมื่อ 15 ปีก่อน นี่คือประสงค์ของพระเจ้า
ก่อนหน้านี้ เรเซป เทย์ยิป เอร์โดกัน นายกรัฐมนตรีตุรกี ต้องเจอกับกระแสวิจารณ์อย่างหนักกรณีที่เขาพูดถึงภัยพิบัติที่เหมืองถ่านหินในโซมาเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 301 ราย ว่าอุบัติเหตุแบบนั้นถือเป็นเรื่องปกติของธุรกิจเหมืองแร่
ภาพวีดีโอที่บันทึกเหตุภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในหุบเขาซัคลิเคนท์ ได้ถูกโพสต์ทางอินเตอร์เน็ต แสดงให้เห็นภาพผู้คนที่กำลังตื่นตระหนกกำลังพยายามจะช่วยเหลือตัวเองและคนอื่นๆ ที่ถูกกระแสน้ำหลากพัดไป
หุบเขาดังกล่าว อยู่ห่างจากเมืองเฟติเยไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้น ทั้งในหมู่ชาวตุรกีและนักท่องเที่ยวต่างชาติ