“ยูเอ็น” สั่งถอนเจ้าหน้าที่กลับ หลัง “สนามบินตริโปลี” โดนขีปนาวุธถล่มยับ - เครื่องบินที่จอดเสียหาย 90%

รอยเตอร์/เอเจนซีส์/เอเอฟพี - ท่าอากาศยานนานาชาติหลักในกรุงตริโปลีของลิเบียถูกฝูงมิสไซล์โจมตีเมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) หลังจากการสู้รบยืดเยื้อระหว่างกลุ่มติดอาวุธซินตัน (Zintan) ที่ควบคุมท่าอากาศยานนานาชาติแห่งนี้ และกลุ่มมุสลิมผสมติดอาวุธ Operations Cell of Libyan Revolutionaries ใกล้กรุงตริโปลีเข้ามาทุกขณะ พบหอบังคับการบินถูกทำลาย เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน บาดเจ็บ 6 คนสนามบินปิดตัวลง และเครื่องบินเสียหาย 90% ด้านยูเอ็นประกาศถอนเจ้าหน้าที่กลับด่วน

องค์การสหประชาชาติออกคำสั่งถอนเจ้าหน้าที่ออกจากลิเบีย หลังจากมีจรวดมิสไซล์หลายลูกยิงเข้าไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติตริโปลี ลิเบียเมื่อวานนี้ (14) จากความพยายามที่จะแย่งชิงเพื่อควบคุมท่าอากาศยานหลักของลิเบียระหว่างกลุ่มติดอาวุธซินตัน (Zintan) และและกลุ่มมุสลิมผสมติดอาวุธ Operations Cell of Libyan Revolutionaries ห่างจากกรุงตริโปลีทางใต้ไปราว 30 กม.

“ทางหน่วยปฎิบัติการของยูเอ็นสรุปว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ทางหน่วยไม่สามารถจะปฏิบัติงานต่อไปได้ เพราะไม่สามารถให้ความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ของเหล่าผู้ปฏิบัติงาน” องค์การสหประชาชาติออกแถลงการณ์

เจ้าหน้าที่ยูเอ็นได้อพยพออกจากลิเบียด้วยขบวนทางบกข้ามแดนไปยังตูนิเซียในวันจันทร์ (14)

แหล่งข่าวความมั่นคงลิเบียเปิดเผยกับบีบีซีว่า สนามบินตริโปลีโดนขีปนาวุธจำนวนมากโจมตี รวมไปถึง Grad rocket ในช่วงเย็นวันจันทร์ (14)

แหล่งข่าวยังเปิดเผยกับบีบีซีว่า จากการโจมตีสนามบินส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินตริโปลี 1 คนเสียชีวิต และมีอีก 6 คนได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงหอบังคับการถูกทำลายจากขีปนาวุธ และพบว่าสนามบินเบงกาซีซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2ของประเทศได้ปิดตัวลงเป็นเวลา 2 เดือน

บีบีซียังรายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่หอควบคุมการบินของท่าอากาศยานตริโปลีได้รับความเสียหายส่งผลให้สนามบินมิสราตา (Misrata) ที่ยังเป็นสนามบินแห่งเดียวในลิเบียที่ยังเปิดให้บริการเที่ยวบินไฟลต์ต่างประเทศได้ประกาศให้เครื่องบินขาเข้าและขาออกหยุดใช้บริการที่สนามบินแห่งนี้ จะไม่มีเที่ยวบินจากสหภาพยุโรปทั้งไปและกลับมายังลิเบีย เพราะสนามบินมิสราตาไม่ผ่านมาตรฐานสนามบินของสหภาพยุโรป

ด้านรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (14) ว่า นับตั้งแต่วันอาทิตย์ (13) มียอดเสียชีวิตจำนวน 15 คนในการปะทะที่กรุงตริโปลีและเบงกาซีที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศ

อาห์เหม็ด ลามิน (Ahmed Lamine) โฆษกรัฐบาลลิเบียแถลงว่า 90% ของเครื่องบินที่จอดอยู่ในสนามบินแห่งนี้ได้รับความเสียหาย “ขณะนี้รัฐบาลลิเบียกำลังศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะขอกำลังรักษาสันติภาพต่างชาติเพื่อเข้ามาช่วยเหลือประเทศที่กำลังตกอยู่วิกฤตสงครามกลางเมืองอยู่ในขณะนี้” ลามินแถลง

3 ปีหลังจากการล่มสลายของเผด็จการโมอัมมาร์ กัดดาฟี ลิเบียตกอยู่ในภาวะรัฐที่ล้มเหลวซึ่งรัฐบาลลิเบียไร้ความสามารถในการใช้กำลังกองทัพเข้าควบคุมกลุ่มติดอาวุธต่างๆที่เคยล้มกัดาฟี และกลุ่มติดอาวุธที่ยังจงรักภักดีต่อกัดดาฟี ที่กลุ่มขัดแย้งเหล่านี้มักใช้อาวุธหนักปะทะเพื่อควบคุมอำนาจการเมืองและเศรษฐกิจ

กลุ่มมุสลิมติดอาวุธซินตัน (Zintan) ที่ถูกมองว่าอยู่ใต้ปีกการเคลื่อนไหวเสรีนิยมที่แสวงหาอำนาจร่วมกับกลุ่มอิสลามิสต์ที่ครองเสียงส่วนมากในรัฐสภาลิเบีย ได้ร่วมโค่นอำนาจกัดดาฟีในปี 2011 และเริ่มสถาปณาอำนาจขึ้นในกรุงตริโปลี รวมถึงเข้าควบคุมสนามบินตริโปลี และฐานทัพลิเบีย ในขณะที่กลุ่มติดอาวุธ Operations Cell of Libyan Revolutionaries ที่เป็นกองกำลังมุสลิมผสมติดอาวุธอยู่ใต้ปีกของกลุ่มอิสลามิสต์ในรัฐสภาลิเบีย (GNC)

การปะทะเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งทั่วไปในลิเบียเสร็จสิ้นลง

แหล่งข่าวทหารลิเบียให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ถึงเหตุการณ์โจมตีเพื่อแย่งควบคุมสนามบินแห่งนี้ว่า มีทหารลิเบีย 2 นายเสียชีวิต และมีเครื่องบินถูกทำลาย “เครื่องบินและรถของพลเรือนได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางอากาศด้วยขีปนาวุธของกลุ่มติดอาวุธลิเบียในวันจันทร์ (14)” อับเดล ราห์มาน (Abdel Rahman) นายทหารประจำหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำสนามบินตริโปลีกล่าว และเสริมว่า ห้องโถงที่ใช้ด่านตรวจศุลกากรถูกทำลายไปด้วย ราห์มานกล่าวเสริม

มีคนถูกสังหารไป 7คนในวันอาทิตย์ (13) ซึ่งถือเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สุดในการสู้รบยืดเยื้อนาน 6 เดือนในกรุงตริโปลี ที่กลุ่มติดอาวุธสองฝ่ายต่างสู้รบเพื่อแย่งชิงการเข้าควบคุมสนามบินนานาชาติหลักของชาติ

และแหล่งข่าวความมั่นคงและสาธารณสุขได้ยืนยันกับรอยเตอร์ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และบาดเจ็บ 25 คน ในการปะทะที่เบงกาซีระหว่างกองทัพลิเบียและกลุ่มติดอาวุธคู่ขัดแย้งในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (13)