xs
xsm
sm
md
lg

“สหรัฐฯ” เพิ่มทหารอีก 300 นายส่งไปอิรัก “ประกันช่องทางหนีฉุกเฉิน” ให้ทูตมะกันหากเกิดเหตุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - ไม่ถึงสัปดาห์หลังจากประกาศส่งเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯในอิรัก ล่าสุดทำเนียบขาวได้ประกาศอีกครั้งที่จะส่งกำลังทหารอย่างน้อย 300 นายไปเสริมกำลังรักษาความปลอดภัยในสถานที่สำคัญในกรุงแบกแดด ท่ามกลางการลุกคืบของของกองกำลังมุสลิมสุหนี่ ISIL

ในสารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ที่ส่งถึงสภาคองเกรสในวันจันทร์ (30 มิถุนายน) โอบามาได้ชี้แจงถึงการเพิ่มเติมกำลังทหารสหรัฐฯอีกอย่างน้อย 300 นายไปยังอิรักนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ “มาตรการรัดกุมในการให้ความปลอดภัยพลเมืองสหรัฐฯ และผลประโยชน์ของอเมริกา” โดยโอบามาแถลงว่า “จุดมุ่งหมายจัดส่งกองกำลังเพิ่มเติมในครั้งนี้เพื่อปกป้องพลเมืองและทรัพย์สินของสหรัฐฯ ทั้งนี้ทหารสหรัฐฯ ที่ถูกส่งไปในครั้งนี้จะติดอาวุธ หากจำเป็น “

สารของโอบามานี้เป็นฉบับที่ 3 ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้อธิบายว่า กองกำลังที่ถูกเพิ่มเติมนั้นจะเดินทางไปพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ และอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน โดยกองกำลังทหารนี้จะเสริมความปลอดภัยให้กับบรรดาเจ้าหน้าที่การทูตประจำสถานทูตสหรัฐฯในกรุงแบกแดด และรวมไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติในกรุงแบกแดด

RT สื่อรัสเซียรายงานวันนี้ (1) ว่า เมื่อรวมตัวเลขประกาศส่งทหารเพิ่มเติมล่าสุดในวันจันทร์(30 มิถุนายน) ทำให้ยอดรวมทหารสหรัฐฯ ในอิรักมีทั้งสิ้นราว 875 นาย โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน โอบามาอนุมัติส่งทหารไปจำนวน 275 นายเพื่อรักษาความปลอดภัยสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดด และทำเนียบขาวได้อนุมัติทหารอีก 300 นายไปยังอิรัก เพื่อทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ทำการฝึก และช่วยสนับสนุนกองทัพอิรักในการขับไล่กองกำลังมุสลิมสุหนี่ ISIL หลังจากที่กองทัพอิรักต้องได้รับความอับอายไปทั่วโลกที่ต้องล่าถอยออกมาจากเมืองโมซุลในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งการล่าถอยในครั้งนั้นได้ทำให้มีแนวคิดเรื่องการฝึกกองทัพอิรักให้เตรียมพร้อมในการปะทะตลอดเวลา

และเมื่อวานนี้ (30 มิถุนายน) กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามในอิรักและเลแวนต์ (ISIL) ได้ล้ำหน้าไปอีกขั้นด้วยการประกาศจัดตั้งรัฐอิสลามใหม่ที่ปกครองโดยคอลีฟะห์และใช้หลักฏหมายชะรีอะฮ์ครอบคลุมพื้นที่อิทธิพลในอิรักจรดซีเรีย วันอาทิตย์ (29 มิ.ย.) ล่าสุด ISIL ได้ประกาศตั้ง “รัฐอิสลามสุหนี่” กินพื้นที่ครอบคลุมตั้งแต่จังหวัดอะเลปโปทางตอนเหนือของซีเรีย เรื่อยมายังเมืองดิยาลาในภาคตะวันออกของอิรัก พร้อมทั้งแต่งตั้ง อบู บาการ์ อัล-บักดาดี ผู้นำของ ISIL ให้ดำรงตำแหน่ง “คอลีฟะห์” ปกครองชาวมุสลิมทั่วโลก

และผลจากการแผ่อิทธิพลรุกคืบของ ISIL อย่างก้าวกระโดด ทำให้เกิดคำถามด้านความปลอดภัยในอิรักขึ้น แต่โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เจน ซากี ยืนยันว่า สถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงแบกแดดยังคงเปิดให้บริการ และติดต่อสัมพัน์กับชาวอิรักและผู้นำประเทศปกติ อย่างไรก็ตาม วอชิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า เชื่อได้ว่ากองกำลังทหารที่ถูกส่งชุดล่าสุดนี้ไม่แค่คอยคุ้มกันสถานทูต แต่จะอยู่ในส่วนปฎิบัติการอพยพหากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

นอกจากนี้ RT ยังรายงานต่อว่า กองกำลัง ISIL ยังคงสู้รบต่อไปในเมืองติกริตในวันจันทร์(30) ห่างไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงแบกแดดราว 100 ไมล์ และมีรายงานเพิ่มเติมถึงการปะทะในเมืองซามาร์รา ทางใต้ห่างจากเมืองติกริตไป 35 ไมล์

ด้านโฆษกเพนตากอนระดับสูง จอห์น เคอร์บี เปิดเผยว่า ทหาร 300 นายที่ถูกส่งไปยังอิรักล่าสุดนั้นเดินทางล่วงหน้า 1 วันก่อนที่ทำเนียบขาวจะประกาศอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มเดินทางไปอิรักตั้งแต่วันอาทิตย์ (29) “การปรากฏตัวของกองกำลังชุดนี้จะช่วยสนับสนุนให้เหล่านักการทูตสหรัฐฯยังคงสามารถปฎิบัติหน้าที่ทางการทูตที่เต็มไปด้วยอันตรายได้อย่างราบรื่นในอิรักจากสถานการณ์ที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มนักรบสุหนี่ ISIL” เคอร์บีแถลง

และก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีอิรัก นูรี อัลมาลิกี ได้ประนามสหรัฐฯที่ส่งมอบเครื่องบินรบ F-16 และเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ล่าช้า แต่ในทางกลับกันกองทัพอิรักได้ทะยอยรับมอบเครื่องบินขับไล่SU-25 ที่ถูกส่งมาจากรัสเซียเพื่อขับไล่ ISIL

แสดงถึงความแตกต่างของผลประโยชน์ที่ซับซ้อนในภูมิภาคนี้ได้อย่างดี และพบว่าทั้งอิหร่านและซีเรียต่างสนับสนุนรัฐบาลมาลากีขับไล่กลุ่มติดอาวุธสุหนี่ ISIL ในดินแดนอิรัก มีรายงานว่ารัฐบาลอิหร่านได้สนับสนุนด้านอาวุธกับกองทัพอิรัก และส่งโดรนของอิหร่านบินตรวจการเหนือกรุงแบกแดด และรายงานยังอ้างถึงการโจมตี ISIL ทางอากาศจากฝีมือของกองทัพอากาศซีเรีย

ถึงแม้ ISIL จะสามารถยึดครองเมืองในบริเวณทางเหนือของประเทศไว้ได้ แต่ยังเชื่อว่ากรุงแบกแดดยังไม่ตกอยู่ในอันตรายจากการถูกเข้ายึด แต่กระนั้นจากการเปิดเผยที่สหรัฐฯ ได้ส่งกำลังพลเพื่อเติมเสริมความมั่นคง แสดงให้เห็นว่าทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ในการที่เมืองหลวงของอิรักอาจถูกโจมตี
กำลังโหลดความคิดเห็น