เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันจันทร์ (14 ก.ค.) บวกเล็กน้อย จากเหตุวุ่นวายในลิเบียที่กระทบต่ออุปทาน ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากผลประกอบการบริษัทยักษ์ สวนทางกับทองคำที่่ร่วงหนักกว่า 30 ดอลลาร์ วิตกต่อความต้องการที่แท้จริงต่อโลหะมีค่าชนิดนี้
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 8 เซ็นต์ ปิดที่ 100.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 32 เซ็นต์ ปิดที่ 106.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ลิเบียต้องระงับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกทุกเที่ยวจากเมืองมิสราตาเมื่อวันจันทร์ (14) หนึ่งวันหลังจากเกิดเหตุปะทะนองเลือดให้ท่าอากาศยานหลักของประเทศในกรุงตริโปลี ที่ก่อความเสียหายแก่เครื่องบินหลายลำ
เหตุการณ์ดังกล่าวกระตุ้นความกังวลต่อปัญหาอุปทานตึงตัวกลับคืนมา หลังจากก่อนหน้านี้สถานการณ์ต่างๆดูผ่อนคลายลงไปในช่วงต้นเดือน เมื่อนายอัลดุลเลาะห์ อัล-ทานี นายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ของลิเบีย ประกาศว่าสามารถบุกยึดคลังส่งออกเชื้อเพลิง 2 แห่งคืนมาได้ หลังถูกฝ่ายปิดกบฏปิดกั้นมานานหลายเดือน เพื่อให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้องขอปกครองตนเองในดินแดนทางภาคตะวันออก
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (14) ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีเกินคาดหมายของซิตีกรุ๊ป
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 111.61 จุด (0.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,055.42 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.53 จุด (0.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,977.10 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 24.93 จุด (0.56 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,440.42 จุด
ซิตีกรุ๊ป ธนาคารยักษ์ใหญ่แถลงว่ามีรายได้ในไตรมาส 2 มีกำไรต่อหุ้น 1.24 ดอลลลาร์ เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ที่ 1.05 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่ยังไม่นับรวมเงินชดเชย 7,000 ล้านดอลลาร์ที่ต้องจ่ายเพื่อยุติตรวจสอบข้อกล่าวหากี่ยวกับหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งมีการจำหน่ายก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงิน
ส่วนราคาทองคำวานนี้ (14) เป็นวันที่ปิดลบรุนแรงที่สุดของปี 2014 ด้วยอุปสงค์ที่แท้จริงอันซึมเซา ผลักให้นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังขยับขึ้นต่อเนื่องเมื่อเร็วๆ นี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 30.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,306.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์