เอเอฟพี - ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ (13 ก.ค.) ว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ จำนวน 2 ลูก ลงไปในทะเลเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา คาดว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจเกี่ยวกับการซ้อมรบร่วมกันระหว่างสหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ที่กำลังจะมีขึ้น
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ บอกแก่เอเอฟพีว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ จำนวน 2 ลูก มีระยะทำการประมาณ 500 กิโลเมตร ไปตกลงในทะเลทางชายฝั่งด้านตะวันออกตอนเวลา 01.20 น. และ 01.30 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจากนี้ไปทางเกาหลีใต้จะจับตาดูว่าจะมีการยิงเพิ่มเติมออกมาอีกหรือไม่
การยิงขีปนาวุธเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดขึ้น 1 วัน หลังจากที่ทางเกาหลีเหนือออกมาประณามการซ้อมรบร่วมกันของทัพเรือสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-21 กรกฎาคมนี้ โดยมีเรือบรรทุกเครื่องบิน “จอร์จ วอชิงตัน” ของสหรัฐฯ เข้ามาเทียบท่าทางตอนใต้ของเมืองปูซาน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ก.ค.)
จากนั้น ในวันเสาร์ (12 ก.ค.) ทางเกาหลีเหนือก็ได้ออกมาแสดงความโกรธเกรี้ยวต่อการมาของเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้ โดยคณะกรรมาธิการกลาโหมเกาหลีเหนือถึงกับระบุว่า การกระทำครั้งนี้เป็นการยั่วยุแบบไม่ยั้งคิด สหรัฐอเมริกาควรที่จะเข้าใจได้แล้วว่า ยิ่งดึงดันที่จะใช้วิธีการแบล็กเมล์ และข่มขู่ด้วยนิวเคลียร์มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นการผลักดันให้เกาหลีเหนือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ที่ล้ำสมัยมากขึ้นเพื่อใช้ป้องกันตัวเอง
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือมักจะออกมาต่อว่า พร้อมทั้งตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธอยู่เป็นประจำ เวลาที่มีการซ้อมรบเกิดขึ้นในบริเวณชายแดนทางใต้
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ระบุว่า ที่ประชุมสหประชาชาติเคยมีมติสั่งห้ามไม่ให้เกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบขีปนาวุธนำวิถี แต่ทางเกาหลีเหนือกลับยิงขีปนาวุธนำวิถีมาตกในพื้นที่อ่อนไหว ใกล้กับแนวชายแดนของเกาหลีใต้ที่มีการป้องกันแน่นหนา
ด้านสำนักข่าวยอนฮัปนิวส์ ระบุว่า ขีปนาวุธที่ถูกยิงเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ถูกยิงออกมาจากพื้นที่ทางเหนือห่างไปประมาณ 20 กิโลเมตร จากเขตปลอดทหารที่แบ่งคาบสมุทรเกาหลีมาตั้งแต่ช่วงสงครามเกาหลีในปี 1950-1953 สิ้นสุดลง
ขณะที่ศาสตราจารย์คิม จุงบอง จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮันซอง มองว่า เกาหลีเหนือดูเหมือนกำลังยกระดับการคุกคามด้วยการแสดงให้เห็นว่า พร้อมที่จะยิงขีปนาวุธได้ทุกที่ทุกเวลาที่พวกเขาต้องการ ขณะเดียวกัน พื้นที่ซึ่งถูกใช้ยิงขีปนาวุธครั้งนี้ยังอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่เกาหลีใต้ได้ด้วย การยิงขีปนาวุธจากพื้นที่ตรงนั้น เชื่อว่าเกาหลีเหนือพยายามที่จะให้โลกมองว่า “คิม จองอึน” นั้นเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย
ทั้งนี้ หลายครั้งที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมักจะยิงจรวด หรือขีปนาวุธพิสัยใกล้ลงไปในทะเลเพื่อแสดงความไม่พอใจเวลาที่รู้สึกว่ากำลังถูกยั่วยุ โดยการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่แล้วเกิดขึ้นก่อนที่ผู้นำจีน “สี จินผิง” จะเดินทางไปเยือนกรุงโซล ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์มองว่า การทดสอบขีปนาวุธครั้งนั้นเกิดขึ้นจากความรู้สึกไม่พอใจที่ผู้นำจีนไปเยือนกรุงโซล ก่อนกรุงเปียงยาง
ทางด้านเกียวโดนิวส์ และจิจิเพรส ก็ออกมารายงานข่าวว่า ญี่ปุ่นได้ประท้วงการยิงขีปนาวุธครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยมีการยื่นเอกสารผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ในกรุงปักกิ่งของจีน แต่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ยืนยันต่อนักข่าวว่า การยิงขีปนาวุธครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการพูดคุยระหว่างญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือ เรื่องคดีลักพาตัวชาวญี่ปุ่นสมัยสงครามเย็น
ทั้งนี้ คดีลักพาตัวดังกล่าว เป็นเหตุการณ์ที่ชาวญี่ปุ่นถูกลักพาตัวโดยสายลับเกาหลีเหนือ เพื่อให้ไปสอนภาษา และวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้กับพวกเขา ในช่วงปี 1970-1980
โดยในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทางญี่ปุ่นได้ผ่อนผันมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ หลังจากที่ได้รับคำมั่นสัญญาว่าจะมีการรื้อฟื้นคดีลักพาตัวชาวญี่ปุ่นมาทำการสืบสวนใหม่อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ในระหว่างที่มีการยิงขีปนาวุธหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา เกาหลีเหนือก็ได้ทาบทามเกาหลีใต้อยู่หลายครั้งที่จะเจรจาสันติภาพ ซึ่งจะรวมถึงการหยุดปฏิบัติการทางการทหารที่เป็นลักษณะของการยั่วยุ แต่ทางเกาหลีใต้ได้ปฏิเสธข้อเสนอโดยระบุว่า เป็นเรื่องที่เหลวไหล เพราะทางเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ แถมยังยิงขีปนาวุธเหมือนเดิมทุกครั้งที่มีการร่วมซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้-สหรัฐฯ
แต่อย่างน้อยก็ยังมีหนึ่งข้อเสนอของเกาหลีเหนือที่ได้รับการยอมรับจากเกาหลีใต้ นั่นคือ เรื่องของการส่งกองเชียร์ไปสนับสนุนนักกีฬาเกาหลีเหนือ ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 กันยายน-4 ตุลาคมนี้ โดยมีการพูดคุยเพื่อประสานความร่วมมือกันในเรื่องนี้ที่หมู่บ้านปันมุนจอม ในเขตพื้นที่ชายแดนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (10 ก.ค.)
