เอเอฟพี – เกาหลีเหนือออกโรงประณามการมาเยือนเกาหลีใต้ของเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ ว่าเป็นการกระทำที่ยั่วยุอย่าง “ไม่ยั้งคิด” ในวันนี้ (12) ภายหลัง เปียงยางได้เสนอหนทางผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างพรมแดน
เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน มาถึงเมืองท่าปูซานทางใต้ของโสมขาว เมื่อวานนี้ (11) เพื่อร่วมการซ้อมรบที่จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า
โฆษกสำนักงานนโยบายของคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติของเกาหลีเหนือ (เอ็นดีซี) กล่าวว่า การมาเยือนครั้งนี้แทบจะไม่ได้ต่างอะไรกับการทูตแบบใช้นาวิกานุภาพของสหรัฐฯ ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา และเป็นการดูหมิ่นต่อข้อเสนอของเกาหลีเหนือ
“สหรัฐฯ ควรเข้าใจให้ถูกต้องว่า ยิ่งดึงดันใช้วิธีการคุกคามและขู่เข็ญอย่างไม่ยั้งคิดมากขึ้นเท่าใด เกาหลีเหนือก็จะยิ่งเสริมสร้างอานุภาพนิวเคลียร์ที่ล้ำหน้าไว้สำหรับการป้องกันตนเอง” สำนักข่าวกลางของทางการโสมแดง (เคซีเอ็นเอ) รายงาน โดยอ้างจากคำแถลงของโฆษกคนดังกล่าว
เขากล่าวว่า การซ้อมรบระหว่างโสมขาวและสหรัฐฯ ซึ่งจะมีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือได้ยื่นข้อเสนอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็น ”การท้าทายอย่างโจ่งแจ้ง” ต่อความพยายามของพวกเขา
“เมื่อใดก็ตามที่มีสัญญาณของการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ และการผ่อนคลายความตึงเตรียดบนคาบสมุทรนี้ สหรัฐฯ ก็จะเข้ามาทำการแทรกแซงและขัดขวางอย่างชั่วร้าย” เขากล่าวโดยพาดพิงถึงการซ้อมรบที่จะเกิดขึ้นนี้
สำนักข่าวยอนฮัป รายงานว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน จอร์จ วอชิงตัน มีกำหนดการเข้าร่วมการซ้อมรบร่วมกับกองทัพเรือเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 16-21 กรกฎาคม ในฐานะส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมทางทหารประจำปี หลังจากนั้นก็จะเข้าร่วมภารกิจค้นหาและกู้ภัยกับกองทัพเรือเกาหลีใต้และญี่ปุ่นในน่านน้ำห่างจากเกาะเชจูที่อยู่ทางใต้ เป็นเวลา 2 วัน โดยเริ่มในวันที่ 21 กรกฎาคม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เอ็นดีซี ได้เรียกรียกร้องให้ทั้งเกาหลีเหนือและใต้ยุติกิจกรรมทางทหารที่ไม่เป็นมิตร ขณะที่โซลโต้กลับว่าเป็นข้อเสนอที่ "เหลวไหล” ในเมื่อเห็นๆ กันอยู่ว่าเปียงยางไม่เลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์
เกาหลีเหนือได้เสนอข้อเรียกร้องอื่นๆ อีกในวันจันทร์ (7) สำหรับความตึงเครียดทางทหารกับเกาหลีใต้ที่ยังไร้ทางออก ทั้งที่ คิม จองอึน ผู้นำโสมแดงก็กำลังเฝ้าควบคุมการซ้อมจู่โจมบนเกาะแห่งหนึ่งไกล้กับแนวพรมแดนทางทะเลที่อ่อนไหว
ถ้อยแถลงที่เคซีเอ็นเอนำมารายงาน ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่จะยุติ “การมุ่งร้ายต่อกันและการเผชิญหน้าอย่างไม่ยั้งคิด” และเรียกร้องให้โซลยกเลิกการซ้อมรบร่วมประจำปีกับสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ได้ประกาศอย่างแน่วแน่ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า การซ้อมรบร่วมไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้