เอเอฟพี - สถานีวิทยุสาธารณะของอิสราเอลรายงานวันนี้ (13 ก.ค.) ว่า เมื่อดึกคืนวานนี้ (12) หน่วยรบเฉพาะกิจของกองทัพเรืออิสราเอลได้เปิดฉากปฏิบัติการทหารภาคพื้นดิน ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาเป็นครั้งแรกนับตั้งอิสราเอลเริ่มต้นภารกิจโจมตีกลุ่มติดอาวุธ ฮามาส
สถานีวิทยุเจ้านี้ระบุว่า ปฏิบัติการจู่โจมอย่างรวบรัดครั้งนี้ ตั้งเป้าทำลายที่ตั้งแท่นยิงจรวดแห่งหนึ่ง ขณะที่กลุ่มติดอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับฮามาสยืนยันว่า หน่วยรบเฉพาะกิจของอิสราเอลได้ดวลกระสุนกับบรรดานักรบปาเลสไตน์บางส่วน
ในเวลาต่อมา โฆษกกองทัพอิสราเอลก็ออกมาแถลงว่า มีทหารอิสราเอล 4 นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในระหว่างดำเนินภารกิจ
โฆษกผู้ปฏิเสธที่จะชี้แจงรายละเอียดของปฏิบัติการทหารครั้งนี้เปิดเผยว่า “ระหว่างดำเนินภารกิจในพื้นที่ หน่วยคอมมานโดถูกกลุ่มก่อการร้ายบางส่วนกราดยิง เป็นผลให้มีทหารอิสราเอลได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 นาย”
กองพลน้อยเอซเซไดน์ อัล-กัสซาม ซึ่งเป็นกองกำลังของกลุ่มฮามาส ยืนยันว่า “นักรบของเราได้ยิงโต้ตอบกับทหารเรือไซออนนิสต์ (อิสราเอล) ที่พยายามแทรกซึมเข้ามาในเขตซูดานเยีย” ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฉนวนกาซา
วานนี้ (12 ก.ค.) ทั่วโลกได้ร่วมกันวิงวอนให้อิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “ฮามาส” ยุติการก่อเหตุโจมตีกันและกัน ทว่าเหตุรุนแรงกลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ในตอนนี้ยอดเหยื่อผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการทางอากาศของกองทัพอิสราเอลได้ทะยานขึ้นสู่ 165 ราย และกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซายังระดมยิงจรวดเข้าไปในรัฐยิวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
วานนี้ (12) นับเป็นวันที่สถานการณ์รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ความขัดแย้งเปิดฉากขึ้นเมื่อวันอังคาร (8) โดยพบว่าวันเดียวมีชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารไปถึง 52 ชีวิต
ทั้งสองฝ่ายได้เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องสงบศึก และอิสราเอล ยังคงวางกำลังทหารตามแนวพรมแดนติดกับฉนวนกาซา เพื่อเตรียมพร้อมรับคำสั่งโจมตีภาคพื้นดิน ขณะเดียวกัน รัฐยิวได้เตือนให้ชาวปาเลสไตน์ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาอพยพออกจากบ้านเรือน
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ทะยานขึ้นสู่ 165 ราย และยังไม่มีชาวอิสราเอลเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้พร้อมใจกันเรียกร้องให้อิสราเอลและฮามาสเคารพใน “หลักการมนุษยธรรมสากล” และยุติการเสียเลือดเสียเนื้อ
คณะมนตรีจาก 15 ชาติได้เรียกร้องให้อิสราเอล และกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “ยึดมั่นในหลักสันติและกลับไปปฏิบัติตามข้อตกลงสงบศึก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2012” โดยเป็นการเอ่ยถึงความขัดแย้งครั้งรุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในฉนวนกาซา
ภารกิจโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ซึ่งถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดและสร้างความเสียหายมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012 ได้เปิดฉากขึ้นอีกครั้งเมื่อช่วงรุ่งสางวานนี้ (12) ซึ่งรวมถึงการตั้งเป้าจู่โจมศูนย์พักพิงสำหรับคนพิการ และเหตุโจมตีที่คร่าชีวิตหลานชาย 2 คนของ อิสมาอิล ฮานิญา อดีตนายกรัฐมนตรีขบวนการฮามาส
จรวดที่พุ่งตรงออกมาจากฉนวนกาซาได้ทะยานลงไปตกในนครเยรูซาเล็ม และกรุงเทลอาวีฟ ขณะที่ระบบต่อต้านขีปนาวุธในเมืองหลวงของอิสราเอลสามารถสกัดจรวดไว้ได้หลายลูก ทางด้านอิสราเอลก็ตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธจากเยรูซาเลมลงไปในเมืองสองแห่ง ทางตอนใต้ของเขตเวสต์แบงก์
อย่างไรก็ตาม จรวดหลายร้อยลูกยังไม่ได้คร่าชีวิตชาวอิสราเอลแม้แต่คนเดียว และระบบต่อต้านขีปนาวุธไอออนโดมของอิสราเอลยังสามารถสกัดไว้ได้เป็นจำนวนมาก
*** ศูนย์พักพิงผู้พิการถูกโจมตี ***
จามิลา อไลวา ผู้อำนวยการศูนย์พักพิงผู้พิการที่ถูกทำลาย ระบุว่า ปฏิบัติการทางอากาศของกองทัพอิสราเอลได้ตั้งเป้าโจมตีศูนย์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาแห่งนี้ ส่งผลให้มีหญิงพิการเสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน
เธอเล่าว่า ผู้ที่อยู่ในศูนย์แห่งนี้ “ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และรู้สึกหวาดผวามาก”
“พวกเขายิงจรวดใส่พวกเรา โดยไม่ประกาศเตือนล่วงหน้า”
บรรดาแพทย์เปิดเผยว่า ต่อมาเมื่อช่วงดึกของคืนวานนี้ (12) อิสราเอลได้จู่โจมบ้าน และมัสยิดอีกหลังหนึ่ง ในเขตตุฟฟาห์ ทางภาคตะวันออกของเมืองกาซา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน โดยหนึ่งในนั้นคือผู้กำกับการตำรวจ ตอยซีร์ อัล-บัตช์
ภายหลังที่ฮามาสออกมาประกาศเตือนล่วงหน้าอย่างที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นว่า มีแผนจะโจมตีกรุงเทลอาวีฟ ของอิสราเอล ขบวนการอิสลามิสต์กลุ่มนี้ก็เปิดฉากระดมยิงจรวดอีกครั้ง
แหล่งข่าวจากกองทัพและกองกำลังความมั่นคงปาเลสไตน์ ระบุว่า อย่างไรก็ตาม มีจรวด 3 ลูกที่ฮามาสตั้งเป้ายิงใส่นครเยรูซาเล็ม พุ่งตกใส่เมืองฮีบรอน และเบธเลเฮม ในกาซา แต่ไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ระบบต่อต้านขีปนาวุธสามารถสกัดจรวด 3 ใน 4 ลูกที่พุ่งตรงไปยังกรุงเทลอาวีฟ ส่วนอีกลูกตกลงไปในที่โล่งทางตอนใต้ของเมืองหลวงอิสราเอล
กองทัพอิสราเอลชี้ว่า นับตั้งแต่ความขัดแย้งครั้งเปิดฉากขึ้น อิสราเอลก็ถูกจรวดโจมตีไปแล้วกว่า 500 ลูก และเมื่อเย็นวานนี้ (12) ก็มีจรวดอีก 2 ลูกที่พุ่งมาจากเลบานอน ตกลงไปในพื้นที่รกร้างทางตอนเหนือของรัฐยิวทำให้อิสราเอลยิงปืนใหญ่ตอบโต้
ระหว่างที่นานาชาติพยายามเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายยอมสงบศึก โฆษกของประธานาธิบดี อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี แห่งอียิปต์ก็ระบุว่า รัฐบาลแดนไอยคุปต์กำลังติดต่อพูดคุยกับทั้งสองฝ่าย
วานนี้ (12) ซีซีได้พบกับ โทนี แบลร์ ทูตสันติภาพตะวันออกกลาง ณ กรุงไคโร เพื่อหารือกันถึงวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นก็กล่าวเตือนว่า การใช้ความรุนแรงหนักขึ้น อาจทำให้ “มีผู้บริสุทธิ์ล้มตาย” อีกเป็นจำนวนมาก
ทางด้าน วอชิงตันแถลงว่า กำลังพยายามใช้สายสัมพันธ์ที่มีต่อภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อโน้มน้าวให้ทั้งสองฝ่ายยอมพักรบ
ขณะที่เอกอัครราชทูตอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหรัฐฯ เข้าประชุมร่วมกันที่กรุงเวียนนาในวันนี้ (13) พวกเขาจะหารือกัน เพื่อหาวิธีให้ทั้งสองฝ่ายระงับการโจมตี
ทางฝ่าย กระทรวงการต่างประเทศอิตาลี ระบุว่า เฟเดริกา โมเกรีนี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิตาลี ได้วางแผนเดินทางเยือนอิสราเอลและปาเลสไตน์ตั้งแต่วันที่ 14 - 17 กรกฎาคม และจากนั้นจึงเดินทางไปอียิปต์ต่อในวันที่ 18 กรกฎาคม