เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เสียงไซเรนเตือนภัยดังระงม หลังนักรบฮามาสในกาซายิงขีปนาวุธเข้าใส่เมืองเยรูซาเลม และกรุงเทลอาวีฟ เมื่อค่ำคืนวันอังคาร (8 ก.ค.) ตอบโต้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอล และไม่ยี่หระต่อกรณีที่ยิวเคลื่อนกำลังทหารสำหรับความเป็นไปได้ในการยกพลบุกทางภาคพื้น ที่มีเป้าหมายหยุดยั้งการระดมยิงจรวดออกมาจากพื้นที่ที่ปกครองโดยพวกฮามาส
หนึ่งวันหลังจากอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อฉนวนกาซาหลายระลอกที่คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 21 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน พวกนักรบฮามาสก็ตอบโต้ด้วยการยิงจรวดเข้าใส่ย่านที่ศูนย์กลางประชากรหลักๆ ของอิสราเอลทั้งในเยรูซาเลม และกรุงเทลอาวีฟ
ท่ามเสียงไซเรนดังระงมทั่วนครเยรูซาเลมได้มีเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวดังขึ้น 3 ครั้งและพบเห็นแสงวาบลุกขึ้นบนท้องฟ้าทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลายครั้ง ขณะที่ชาวบ้านบอกกับเอเอฟพีว่าพวกเขาได้ยินเสียงระเบิดในรามัต ราซิเอล ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 10 กิโลเมตร “จนถึงตอนนี้จรวดลูกหนึ่งตกใส่พื้นที่โล่งแจ้งใกล้กับรามัต ราซิเอล” โฆษกของตำรวจบอก พร้อมเสริมว่าเบื้องต้นยังไม่ได้รายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายใดๆ ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
ไม่นานหลังจากเกิดเหตุ กองพลน้อย เอซเซดิน อัล-กัสซัม กลุ่มติดอาวุธของฮามาส ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบ ด้วยบอกว่าได้ยิงจรวดเอ็ม 75 จำนวน 4 ลูกเข้าใส่เยรูซาเลม ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากฉนวนกาซาราว 65 กิโลเมตร ขณะเดียวกันยังอ้างด้วยว่าพวกเขาได้ยิงจรวดอีกลูกเข้าใส่ไฮฟา ห่างออกไปราว 165 กิโลเมตร แม้ยังไม่มีการยืนยันว่าขีปนาวุธลูกดังกล่าวตกใส่เมืองท่าทางเหนือของอิสราเอลหรือไม่
นอกจากนี้แล้ว พวกนักรบฮามาสบอกด้วยว่าพวกเขายิงจรวด 4 ลูกเข้าใส่กรุงเทล อาวีฟ ห่างจากทางเหนือของฉนวนกาซา ราว 60 กิโลมตร ทำเสียงไซเรนเตือนภัยดังระงมไปทั่วเมือง หลังจากก่อนหน้านี้จรวดอีกลูกที่มีเป้าหมายถล่มเมืองหลวงการค้าของอิสราเอลแห่งนี้ ถูกสอยร่วงโดยระบบต่อต้านขีปนาวุธ “ไอรอน โดม” โดยปราศจากการสูญเสียใดๆ
เหตุการณ์ล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีมะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ เรียกร้องอิสราเอลหยุดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อฉนวนกาซาในทันทีและเรียกร้องประชาคมนานาชาติช่วยกดดันรัฐยิว
อย่างไรก็ตาม หลังถูกระดมยิงด้วยจรวดออกมาจากพื้นที่ที่ปกครองโดยพวกฮามาสอย่างดุเดือดมาเกือบ 4 สัปดาห์ อิสราเอลก็มีทีท่าใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดจัดการกับขบวนการอิสลามิสต์กลุ่มนี้ ด้วยรัฐบาลได้ให้อำนาจกองทัพระดมกำลังทหารกองหนุน 40,000 นาย
กองทัพยิวเปิดเผยว่า มีจรวดมากกว่า 120 ลูกถูกยิงมาตกในดินแดนของอิสราเอลในช่วง 2 วันหลังสุด ส่วนทางฝั่งอิสราเอลตอบโต้ด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายสิบระลอกทั่วกาซา โดยมีเป้าหมายเป็นบ้านพักฝ่ายปฏิบัติการของพวกฮามาสที่พวกเขากล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงจรวดข้ามพรมแดน
นอกจากนี้แล้วกองทัพยังบอกด้วยว่าพวกเขายังได้ถล่มที่ตั้งทางทหาร เครื่องยิงจรวดที่ปิดซ่อนเอาไว้ จากนั้นก็โจมตีจากทางทะเลอีก 3 ชุด ซึ่งสามารถทำลายศูนย์บัญชาการของพวกฮามาสที่อำพรางอยู่ในอาคารพลเรือนแห่งหนึ่งได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามพวกฮามาสประณามปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลว่าเป็นอาชญากรสงครามที่น่าสยดสยอง และประกาศแก้แค้นชาวอิสราเอลทุกคน
นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (8) “เราจะไม่อดทนต่อการยิงจรวดเข้าใส่เมืองต่างๆ ของเรา เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมขยายปฏิบัติการต่อฮามาสและองค์กรก่อการร้ายอื่นๆ ในกาซา อิสราเอลไม่ได้กระหายสงคราม แต่ความปลอดภัยของพลเรือนของเราจะถูกนำมาพิจารณาเป็นลำดับแรก”
คำพูดของเขามีขึ้นไม่นานหลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้อำนาจกองทัพระดมกำลังทหารกองหนุนเติมอีก 40,000 นาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโวบอกกับเอเอฟพีว่ากองทัพกำลังเตรียมการทุกทางเลือกเพื่อหยุดยั้งการยิงจรวดของฮามาส ในนั้นรวมถึงยกพลบุกทางภาคพื้น
นับตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน วันที่กระแสความรุนแรงจากการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันได้เริ่มต้นขึ้น กองทัพยิวเผยว่ามีจรวดหลายร้อยลูกถูกยิงตกทางภาคใต้ของอิสราเอล นอกจากนี้ยังมีอีกกว่า 40 ลูกที่ระบบต่อต้านขีปนาวุธ “ไอรอน โดม” สกัดเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ยังไม่มีชาวอิสราเอลได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
สหรัฐฯ ประณามการยิงจรวดว่า เป็นการกระทำที่มีเจตนาเล็งเป้าหมายไปที่พลเรือนโดยกลุ่มนักรบ ส่วนสหภาพยุโรปตำหนิการยิงจรวดโดยไม่เลือกหน้าออกมาจากกาซาและปฏิบัติการยิงแก้แค้นของอิสราเอลที่สร้างความสูญเสียในหมู่พลเรือนมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายหยุดยิงในทันที