รอง ปธ.สภาดูมารัสเซียโวย “ตำรวจลับสหรัฐฯ” อุกอาจ “อุ้มลูกชาย” จากมัลดีฟส์ หวังแลก “สโนว์เดน”

เอเจนซีส์ - รองประธานสภาดูมาของรัสเซีย วาเลรี ซีลิซนอฟ (Valery Seleznyov) บิดาของโรมัน ซีลิซนอฟ (Roman Seleznyov) วัย 30 ปี ให้สัมภาษณ์ RT สื่อรัสเซียเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) ว่าบุตรชายถูกลักพาตัวโดยหน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ จากสนามบินนานาชาติ Male ของมัลดีฟส์ เพื่อหวังยื่นข้อเสนอต่อรองกับรัสเซีย เช่น แลกตัวเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่กำลังลี้ภัยอยู่ในกรุงมอสโก ในขณะที่กระทรวงมาตุภูมิและความมั่นคงสหรัฐฯแถลงยอมรับ ใช้ตำรวจลับจับกุมโรมัน ซีลิซนอฟ ผู้ต้องหาชาวรัสเซีย แฮกเกอร์ขโมยบัตรเครดิตจากมัลดีฟส์ในวันที่ 5 กรกฎาคมจริง

สื่ออังกฤษ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานเมื่อวานนี้ (8) ว่า กระทรวงมาตุภูมิและความมั่นคงสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์วันจันทร์นี้ (7) ยอมรับว่าหน่วยซีเครต เซอร์วิสของสหรัฐฯ ในวันที่ 5 กรกฎาคมได้จับกุมโรมัน ซีลิซนอฟ (Roman Seleznyov) วัย 30 ปี ผู้ต้องหาชาวรัสเซียคดีอาชญากรรมไซเบอร์ ขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของประชาชนชาวสหรัฐฯ อย่างน้อย 200,000 ใบ ในช่วงปี 2009-2011 และได้ขายข้อมูลบัตรเครดิตราว 140,000 ใบในเว็บไซต์ใต้ดิน อาทิ bulba.cc และ Track2.name ทำกำไรได้มากกว่า 2 ล้านดอลลาร์ นิวยอร์กไทม์ส สื่อสหรัฐฯ รายงานวันจันทร์ (7) ซีลิซนอฟเป็นบุตรชายของรองประธานสภาดูมารัสเซีย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์รัสเซียจากพรรคชาตินิยมรัสเซีย ลิเบอรัล เดโมแครติก ปาร์ตี วาเลรี ซีลิซนอฟ (Valery Seleznyov) ที่มักให้ความเห็นในแง่ลบกับสหรัฐฯ

ในขณะที่กระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงข่าวยืนยันการจับกุมตัวซีลิซนอฟในขณะที่เขากำลังขึ้นเครื่องเพื่อบินกลับมายังกรุงมอสโก โดยทางตำรวจลับสหรัฐฯ บังคับให้ลูกชาย ส.ส.รัสเซียต้องย้ายไปขึ้นเครื่องบินลำอื่นเพื่อเดินทางไปเกาะกวม ที่อยู่ในดินแดนสหรัฐฯ แทน และกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ตำหนิการจับกุมตัวในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ที่อุกอาจกระทำอย่างไม่ไว้หน้ารัสเซีย และยังกล่าวโทษมัลดีฟส์ที่ไม่ให้ความสำคัญระดับทวิภาคีระหว่างรัสเซียและมัลดีฟที่ปล่อยให้มีการส่งผู้ร้ายสัญชาติรัสเซียข้ามแดนโดยไม่ผ่านกระบวนการตามช่องทางที่เหมาะสม

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯ เป็นฝ่ายกระทำก่อนโดยการเพิกเฉยต่อข้อตกลงระดับทวิภาคีในความร่วมมือด้านอาชญากรรม ที่ส่งผลให้มีการลักพาตัวพลเมืองสัญชาติรัสเซียเกิดขึ้น” กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวผ่านแถลงการณ์ และยังเปรียบเทียบกับคดีจับกุมตัววิกเตอร์ บูต นายหน้าค้าอาวุธระดับโลก ซึ่งเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ถูกรวบตัวได้ในไทยในปี 2008และส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ ในปี 2010 บุตถูกพิพากษาจำคุกนาน 20ปี เริ่มตั้งแต่ 2012 สร้างความโกรธแค้นให้รัสเซียที่มองว่า สหรัฐฯจับกุมและพิพากษานักธุรกิจรัสเซียที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบยุติธรรมสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่เปิดเผยถึงรายละเอียดการจับกุมตัวซีลินอฟ โดยกล่าวเพียงว่าผู้ต้องหาอาชญากรรมเศรษฐกิจทางคอมพิวเตอร์ต้องขึ้นศาลในกวมเมื่อวันจันทร์ (7) และจะอยู่ในเรือนจำต่อไปอีก 2 สัปดาห์จนกระทั่งถึงการไต่สวนนัดครั้งต่อไป และซีลิซนอฟอาจถึงขั้นถูกจำคุกเป็น 30 ปีหากเขามีความผิดจริง

ด้านวาเลรี ซีลิซนอฟ บิดาของมือแฮกเกอร์ให้สัมภาษณ์กับ RT สื่อรัสเซียเมื่อวานนี้ (8) ว่า “ในขณะนี้ผมทราบเพียงว่า บางทีอาจมีการยื่นข้อเรียกร้องเงินเพื่อแลกการปล่อยตัวในวันพรุ่งนี้ หรืออาจจะพยายามแลกตัวโรมันกับเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน” โดยซีลินอฟผู้พ่อไม่สามารถติดต่อบุตรชายของเขาได้ โดยเขาอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจลับสหรัฐฯ ปฏิเสธสิทธิขั้นพื้นฐานของบุตรชาย “พวกเขานำตัวโรมันไปที่เกาะกวมเพราะกฎหมายสหรัฐฯ ไม่ครอบคลุมในมัลดีฟส์” ส.ส.รัสเซียซีลินอฟ อธิบาย และยืนยันว่าบุตรชายไม่มีความเชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีความสามารถเป็นแฮกเกอร์ได้