ผู้นำ “รัฐอิสลาม” โผล่เรียกร้องมุสลิมทั่วโลกเชื่อฟัง มหาดไทยอิรักระบุ “ไม่ใช่ตัวจริง”

เอเจนซีส์ - อบู บาการ์ อัล-บักดาดี ผู้นำของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ซึ่งเป็นแกนนำกองกำลังอาวุธฝ่ายสุหนี่ บุกยึดพื้นที่จำนวนมากในอิรักและซีเรีย อีกทั้งประกาศตัวเป็น “กาหลิบ” ของชาวมุสลิมทั่วโลก ปรากฏตัวในคลิปที่ถ่ายทำในมัสยิดใหญ่ของเมืองโมซุล เรียกร้องให้ชาวมุสลิมเชื่อฟังตน ขณะที่กระทรวงมหาดไทยอิรัก กล่าวหาว่า บุคคลที่ปรากฏในคลิปไม่ใช่อัล-บักดาดี ที่ถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บ และถูกส่งไปรักษาตัวอยู่ในซีเรียแล้ว ในอีกด้านหนึ่งนายกฯ มาลิกี ของอิรัก ออกคำสั่งปลดผู้บัญชาการทหาร และตำรวจสังเวยความเพลี่ยงพล้ำต่อกองกำลังสุหนี่ พร้อมกับแสดงท่าทีต้านทานกระแสกดดันให้เขาถอนตัวออกจากเวทีเพื่อจะได้สร้างความปรองดองภายในชาติขึ้นมาใหม่ โดยเขายืนกรานอ้างความชอบธรรมจากคะแนนที่ได้รับในการเลือกตั้งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

คลิปวิดีโอที่โพสต์บนเว็บไซต์ของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS ก่อนหน้านี้กลุ่มนี้ใช้ชื่อว่า รัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ ใช้อักษรย่อว่า ISIL ตลอดจนเรียกขานว่า รัฐอิสลามแห่งอิรักและอัล-ชาม ใช้อักษรย่อว่า ISIS) ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (5 ก.ค.) เป็นภาพชายรูปร่างใหญ่ในเสื้อคลุม และผ้าโพกศีรษะสีดำ กล่าวกับผู้เข้าร่วมพิธีละหมาดใหญ่ประจำสัปดาห์ ในมัสยิดอัล-นูร์ กลางเมืองโมซุล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรักที่ IS ยึดได้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยเขาเรียกร้องให้ชาวมุสลิมทั่วโลกเชื่อฟังตัวเขา เหมือนที่ตัวเขาเชื่อฟังพระอัลเลาะห์

ข้อความบรรยายในคลิประบุว่า ชายผู้นี้คือ “คอลีฟะห์ (กาหลิบ) อิบราฮิม” อันเป็นชื่อที่บักดาดีได้รับหลังจาก IS ประกาศจัดตั้งรัฐอิสลามที่มี “คอลีฟะห์” เป็นผู้ปกครองทั้งทางการเมือง และทางศาสนาขึ้นมาใหม่ โดยที่ระบบนี้ได้เลิกสูญไปพร้อมกับการล่มสลายของอาณาจักรออตโตมันในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ไอเมนน์ อัล-ทามิมี ผู้เชี่ยวชาญด้านขบวนการอิสลามระบุว่า นี่เป็นคลิปชุดแรกที่ บักดาดี ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการ แม้ผู้นำนักรบญิฮัดผู้นี้เคยปรากฏตัวในคลิปภายใต้ชื่ออื่นเมื่อปี 2008 ก็ตาม

ไอเมนน์ อัล-ทามิมี ผู้เชี่ยวชาญด้านขบวนการอิสลามระบุว่า นี่เป็นคลิปชุดแรกที่บักดาดีปรากฏตัวอย่างเป็นทางการ แม้ผู้นำนักรบญิฮัดผู้นี้เคยปรากฏตัวในคลิปภายใต้ชื่ออื่นเมื่อปี 2008 ก็ตาม

ทว่า นายพลจัตวา ซาอัด มาน โฆษกกระทรวงมหาดไทยอิรักแย้งว่า บุคคลในคลิปไม่ใช่บักดาดี เนื่องจาบักดาดี เพิ่งได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีทางอากาศและถูกส่งไปตัวรักษาที่ซีเรีย กระนั้น มา นก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม และไม่มีใครสามารถยืนยันข่าวนี้

ในอีกด้านหนึ่ง ยูเซฟ อัล-การาดาวี นักการศาสนาทรงอิทธิพลของนิกายสุหนี่เตือนว่า การประกาศจัดตั้งคอลีฟะห์ขึ้นมา โดยกลุ่มที่รู้กันดีว่าโหดร้ายป่าเถื่อน และหัวรุนแรงเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องตามหลักการของศาสนาอิสลาม รวมทั้งตำแหน่งกาหลิบจะต้องได้รับการแต่งตั้งจากประเทศมุสลิม ไม่ใช่กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม อัล-ทามิมี ชี้ว่า การที่บักดาดี ออกมาปรากฏตัว และให้ถ่ายคลิปเผยแพร่จากมัสยิดใหญ่ที่สุดในโมซุล บ่งชี้ว่า IS มีอำนาจเหนือเมืองนี้ และยังทำให้นักรบสุหนี่ฮึกเหิมมากขึ้น ซึ่งถือเป็นผลร้ายต่อกองทหาร และกำลังอาวุธอื่นๆ ของรัฐบาลอิรักอย่างยิ่ง

IS นั้นเป็นที่เลื่องลือเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิต การประหารชีวิต และตรึงกางเขนศัตรู โดยในคลิปที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ ยังมีภาพมัสยิด และสุสานอย่างน้อย 10 แห่ง ของทั้งนิกายชีอะห์ และสุหนี่ในเมืองโมซุล และจังหวัดนิเนเวห์ถูกทำลาย

ขณะเดียวกัน กองกำลังความมั่นคงของอิรักยังคงไม่สามารถโจมตียึดพื้นที่คืนมาจากนักรบสุหนี่ที่นำโดย IS ได้ โดยเฉพาะที่เมืองติกริต บ้านเกิดของอดีตผู้นำเผด็จการ ซัดดัม ฮุสเซน หลังจากพยายามมากว่าหนึ่งสัปดาห์ นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ในเมืองซามารา มีผู้เสียชีวิต 15 คนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4)

อิรักนั้นกำลังพยายามเรียกร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติ โดยที่วอชิงตันได้ส่งที่ปรึกษาทางทหารจำนวนเรือนร้อยเข้ามาแล้ว แต่ปฏิเสธที่จะร่วมทำการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มนักรบญิฮัด

สำหรับอิหร่าน ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์เช่นเดียวกับอิรัก ดูจะให้ความช่วยเหลืออย่างแข็งขันมากกว่า โดยมีรายงานว่า นักบินอิหร่านคนหนึ่งเสียชีวิตในอิรักเมื่อวันเสาร์ แต่ไม่มีรายละเอียดว่า นักบินคนดังกล่าวเสียชีวิตขณะบินโจมตี หรือระหว่างต่อสู้ภาคพื้นดิน

วันเดียวกันนั้น โฆษกด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีนูรี อัล-มาลิกี ของอิรักแถลงว่า อาลี กัยดาน ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดิน และโมห์เซน อัล-คาบี ผู้บัญชาการตำรวจ ถูกปลดจากตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสที่สุดที่ถูกปลด นับจาก IS เริ่มบุกหนักเมื่อต้นเดือนที่แล้ว

ความร้าวฉานในอิรักระหว่างชาวสุหนี่ ชีอะห์ และเคิร์ด กำลังปรากฏชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เหล่าผู้นำพยายามจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ภายหลังการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ถึงแม้ มาลิกี ถูกวิจารณ์อย่างหนักทั้งใน และนอกประเทศว่า เป็นผู้นำเผด็จการที่สร้างความแตกแยก แต่เขายังคงยืนยันเมื่อวันศุกร์ว่า จะไม่ยอมถอนตัวจากการขึ้นบริหารประเทศสมัยที่ 3 โดยอ้างว่า กลุ่มพันธมิตรทางการเมืองของเขาเป็นผู้ชนะได้ที่นั่งในสภามากกว่าคู่แข่งเกือบ 3 เท่า ถึงแม้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของสภาก็ตาม

การประกาศท่าทีครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่การเปิดประชุมสภาครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (1) ล่มไม่เป็นท่า เนื่องจากมีฝ่ายต่างๆ จำนวนมากคัดค้านการอยู่ในอำนาจต่อไปของมาลิกี จนทำให้ไม่สามารถเลือกประธานสภากันได้ นอกจากนั้น ผู้นำเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดยังเรียกร้องให้ผู้แทนของชาวเคิร์ดในสภาเดินหน้าจัดทำการลงประชามติเพื่อประกาศเอกราชแยกตัวออกจากอิรัก