เอเอฟพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์เรียกร้องให้พลเมืองมุสลิมที่เป็นใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศในวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.) ยกเลิกแผนการเดินทางแสวงบุญเพื่อร่วมพิธีฮัจญ์ที่นครเมกกะ ซาอุดีอาระเบีย ในปีนี้จากสาเหตุแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 หรือโรค MERS ในประเทศเศรษฐีน้ำมันแห่งนี้
คาดว่าชาวมุสลิมในฟิลิปปินส์จำนวน 6,500 คนเตรียมเดินทางแสวงบุญพิธีฮัจญ์ประจำปีที่นครเมกกะ ซาอุดีอาระเบียในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ทำให้ในวันนี้ (3) รัฐบาลฟิลิปปินส์ขอร้องชาวมุสลิมกลุ่มนี้ยกเลิกการเดินทางในปีนี้ และให้เลื่อนไปปีหน้าแทน ที่คาดว่าโรคเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2012 หรือโรค MERS ที่แพร่กำลังระบาดอยู่ในซาอุดีอาระเบียจะสามารถควบคุมได้ ลินดอน ลี ซุย (Lyndon Lee Suy) โฆษกกระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์กล่าว
“เรารู้ว่านี่เป็นภารกิจทางศาสนา แต่กระทรวงมีหน้าที่ต้องให้คำแนะนำด้านสาธารณสุขต่อประชาชนชาวฟิลิปปินส์ โดยการขอให้ชาวฟิลิปปินส์ที่นับถือศาสนาอิสลามเลื่อนการเดินทางออกไปหากเป็นไปได้เนื่องจากเหตุผลความปลอดภัยทางการแพทย์จากโรค MERS ที่กำลังแพร่ระบาด ซึ่งถ้าหากเป็นไปได้ควรพิจารณาเลือนการเดินทางแสวงบุญไปในปีถัดไป” ลี ซุย ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
มีผู้แสวงบุญชาวมุสลิมจำนวนหลายล้านคนทั่วโลกเดินทางไปยังนครศักดิ์สิทธิ์ ทางตะวันตกของซาอุดีอาระเบียทุกปีเพื่อร่วมพิธีฮัจญ์ ซึ่งเป็นพิธีหลักในศาสนาอิสลามจัดขึ้นปีละครั้ง และในปีนี้จะเริ่มจัดขึ้นในเดือนตุลาคม และพิธีอุมเราะห์ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี แต่ทว่าในขณะนี้ซาอุดีอาระเบียกำลังประสบกับวิกฤตภาวะระบาดหนักของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2012
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวในเดือนมิถุนายนว่า ตัวเลขเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยติดเชื้อโรค MERS ลดลง แต่ทุกประเทศยังต้องอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมสำหรับการแสวงบุญของชาวมุสลิมที่เดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ปีนี้ที่นครเมกกะ
ที่ผ่านมาโรค MERS ได้คร่าชีวิตไปแล้ว 284 คนในซาอุดีอาระเบียนับตั้งแต่เริ่มระบาดครั้งแรกในเดือนเมษายน 2012 และพบว่ามีผู้ติดเชื้อหลายร้อยคน มีรายงานการพบใน 22 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์รายงานว่ามีชาวฟิลิปปินส์อย่างน้อย 2 คนเสียชีวิตจากโรคชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2012 ในซาอุดีอาระเบีย
“เป็นประเพณีของชาวมุสลิมในฟิลิปปินส์ที่อย่างน้อยต้องเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ให้ได้ 1 ครั้งในชีวิต” ลี ซุยกล่าวว่า “ทำให้มีตัวเลขของผู้แสวงบุญชาวฟิลิปปินส์จำนวนหนึ่งเดินทางไปนครเมกกะในแต่ละปี”
ลี ซุย กล่าวสรุปว่า “รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้หารือกับหน่วยงานรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย รวมไปถึงผู้นำชุมชนมุสลิมก่อนที่เผยแพร่คำแนะนำดังกล่าว”