รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - มีผู้แสวงบุญชาวมุสลิมเสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 130 คน หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเมดินา ทางภาคตะวันตกของซาอุดีอาระเบียในวันเสาร์ (8)
รายงานจากสำนักข่าวเอสพีเอ ของทางการซาอุดีอาระเบียระบุว่า ผู้เสียชีวิตที่พบเบื้องต้น 15 รายนั้น เป็นผู้แสวงบุญที่เดินทางมาจากประเทศอียิปต์ทั้งหมดเพื่อประกอบพิธี “อุมเราะห์” และคาดว่าสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
ทั้งนี้ การทำอุมเราะห์ คือ การเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่นครเมกกะ ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งสามารถกระทำได้ตลอดทั้งปี ต่างจากพิธีฮัจญ์ที่จะมีขึ้นเพียงปีละครั้ง
รายงานข่าวระบุว่า ทีมกู้ภัยต้องใช้เวลานานมากกว่า 2 ชั่วโมง กว่าจะสามารถควบคุมเพลิงที่โรงแรมดังกล่าว ในเมืองเมดินาเอาไว้ได้ ขณะที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงได้ประกาศอพยพแขกที่เข้าพัก รวมถึงพนักงาน หวั่นเพลิงไหม้ลุกลามมายังอาคารของตน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเมืองเมดินา ออกมาระบุว่า ในขณะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้มีผู้เข้าพักในโรงแรมที่เกิดเหตุกว่า 700 คน และเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่มผู้แสวงบุญชาวมุสลิมที่เดินทางมาจากหลายประเทศทั่วโลก
ด้านบาดร์ อับเดลัตตี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ ออกมาแถลงว่า รัฐบาลไคโรกำลังพยายามยืนยันจำนวนที่แท้จริงของพลเมืองอียิปต์ที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ หลังรายงานจากสื่อสำนักต่างๆ ระบุว่า มีชาวอียิปต์เสียชีวิต 15 คน แต่บางสำนักก็เสนอข่าวว่ามีพลเมืองจากแดนไอยคุปต์ เสียชีวิต 12 คน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนธันวาคมปี 1975 ได้เกิดเหตุแก๊สระเบิดเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ภายในเต็นท์รับรองผู้แสวงบุญแห่งหนึ่ง เป็นเหตุให้ผู้แสวงบุญที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในครั้งนั้นเสียชีวิตไปอย่างน้อย 200 ราย ส่วนเมื่อเดือนเมษายนปี 1997 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ลักษณะเดียวกันขึ้นอีก ส่งผลให้ผู้แสวงบุญเสียชีวิตสูงถึง 343 ราย และอีก 1,500 คน ได้รับบาดเจ็บ
