น้ำมันลง-ทองคำขึ้นจับตาวิกฤตอิรัก หุ้นสหรัฐฯ ทุบสถิติจากยอดขายรถ

เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันลงวานนี้ (1 ก.ค.) จากการขายทำกำไร ขณะที่พายุลูกหนึ่งในสหรัฐฯ ก่อความกังวลต่ออุปสงค์เบนซิน ส่วนทองคำปิดบวก นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในอิรัก ด้านวอลล์สตรีทก็ขยับขึ้นเช่นกัน ได้แรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ในอเมริกาและข้อมูลเศรษฐกิจจีน

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 3 เซ็นต์ ปิดที่ 105.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 94 เซ็นต์ ปิดที่ 112.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เหล่านักวิเคราะห์บอกว่า ตลาดกำลังจับตาพายุโซนร้อนอาเธอร์ พายุลูกแรกที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้ กำลังเคลื่อนตัวอยู่นอกชายฝั่งฟลอริดา ก่อนหน้าวันหยุดเนื่องในวันชาติสหรัฐฯ วันศุกร์นี้ (4)

ขณะเดียวกัน นักลงทุนก็ยังจับตาสถานการณ์ความมั่นคงในอิรัก ชาติผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ ด้วยเมื่อวันอาทิตย์ (29 มิ.ย.) ที่ผ่านมา กลุ่มนักรบอิสลามิสต์ซึ่งครอบครองอาณาเขตเป็นบริเวณกว้างทางเหนือของอิรัก ประกาศจัดตั้ง “รัฐอิสลาม” ที่ปกครองด้วยระบบคอลีฟะห์ (กาหลิบ) ในพื้นที่ที่พวกเขาควบคุมอยู่ ขณะที่การสู้รบยังคงมีอยู่อย่างไม่ลดละ

วิกฤตความรุนแรงในอิรัก ประกอบกับเหตุปะทะทางภาคตะวันออกของยูเครน ตามหลังประกาศหยุดยิงสิ้นสุดลง ก็ผลักให้ทองคำวานนี้ (1 ก.ค.) ปิดแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ ด้วยนักลงทุนผู้เป็นกังวลแห่เข้าถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,326.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันอังคาร (1 ก.ค.) แตะระดับสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ เริ่มต้นไตรมาส 3 ด้วยความคึกคัก ตามหลังยอดขายอันแข็งแกร่งในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และข้อมูลการผลิตของจีน

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 129.47 จุด (0.77 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,956.07 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.09 จุด (0.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,973.32 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 50.47 จุด (1.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,458.65 จุด

นักวิเคราะห์บอกว่าตลาดได้แรงหนุยจากข้อมูลกิจกรรมการผลิตของจีนในเดือนมิถุนายน ที่ขยายตัวร้อนแรงที่สุดในรอบปี ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ มียอดขาย 1.42 ล้านคันในเดือนมิถุนายา เหนือกว่าที่คาดหมายไว้เกือบ 600,000 คัน