xs
xsm
sm
md
lg

“อาเบะ” คลอดแผนฟื้น ศก.ญี่ปุ่น ล็อตสุดท้าย ผู้เชี่ยวชาญติงมาตรการปฏิรูปสำคัญ “แผ่วลง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เผยโฉมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวขั้นตอนสุดท้าย หรือที่เรียกกันว่า “ธนูดอกที่สาม”
เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เผยโฉมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวขั้นตอนสุดท้าย หรือที่เรียกกันว่า “ธนูดอกที่ 3” ซึ่งประกอบด้วยมาตรการที่ครอบคลุมหลากหลายด้าน ตั้งแต่การเพิ่มบทบาทของผู้หญิงและแรงงานต่างชาติ อย่างไรก็ดี คาดว่าแผนการนี้จะได้รับเสียงปรบมือแผ่วเบาจากนักลงทุน หลังจากมาตรการปฏิรูปอันห้าวหาญหลายอย่างซึ่งเคยถูกหยิบยกมาพูดกันก่อนหน้านี้ กลับลดระดับจนอ่อนปวกลงอย่างชัดเจน

เศรษฐกิจญี่ปุ่นปรากฏสัญญาณการฟื้นตัวนับจากที่ อาเบะ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว และประกาศขจัดภาวะเงินฝืดควบคู่กับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยยุทธศาสตร์ 3 ขั้นตอนที่ตัวเขาเองเรียกว่า “ธนู 3 ดอก” ทว่า บรรดาผู้วางนโยบายต่างยอมรับว่า ยังมีภารกิจอีกมากมายที่ต้องดำเนินการเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวหลังจากเศรษฐกิจแดนปลาดิบซบเซานานถึงสองทศวรรษ

“ยุทธศาสตร์การเติบโตของรัฐบาลไม่มีข้อห้ามหรือสิ่งที่ล่วงละเมิดไม่ได้ เราจะท้าทายกฎข้อบังคับและสถาบันที่แข็งกล้า และขจัดอุปสรรคทั้งหมดเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศบรรลุศักยภาพที่แท้จริง” อาเบะแถลงอย่างแข็งขันในวันอังคาร (23 มิ.ย.) หลังจากมาตรการ “ธนูดอกที่ 3” นี้ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น และย้ำว่า “วงจรแง่บวก” ปรากฏขึ้นมาแล้วในรูปของผลกำไรภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้น อันจะนำไปสู่การขึ้นค่าแรง แต่เขาก็ยอมรับว่า การฟื้นตัวยังกระจายไม่ทั่วถึง

ทางด้านพวกผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นว่า “ธนูดอกที่ 3” ของยุทธศาสตร์ฟื้นการเติบโตของอาเบะหรือ "อาเบะโนมิกส์" เป็นเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว แต่ยังอยากรอดูว่า แผนการปฏิรูปจะได้รับการส่งเสริมและสำเร็จลุล่วงอย่างแข็งขันเพียงใด

ทั้งนี้ ธนูสองดอกแรกคือ การผ่อนคลายนโนยายการเงินขนาดใหญ่ที่ช่วยดันราคาสินทรัพย์ให้ขยับขึ้น และแผนการใช้จ่ายทางการคลังที่กระตุ้นอุปสงค์

การสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์เอกชนที่ดำเนินการโดยสำนักข่าวรอยเตอร์พบว่า ส่วนใหญ่คาดว่า อาเบะโนมิกส์อาจดันอัตราเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ราว 0.2-1.5% จากระดับปัจจุบันที่ประมาณ 0.5%

อย่างไรก็ดี เคนจิ ยูโมโตะ รองประธานกรรมการเจแปน รีเสิร์ช อินสติติวท์ สำทับว่า แม้รัฐบาลประกาศยุทธษ่าคีสร้างการเติบโตออกมาแล้ว แต่ขั้นตอนต่อไปคือการผลักดันกฎหมายสนับสนุนมาตรการเหล่านี้ให้ออกมาบังคับใช้ และหลังจากนั้นยังต้องให้เวลาภาคธุรกิจปรับตัว ดังนั้น กว่าที่อัตราเติบโตจะกระเตื้องขึ้นจริงอาจใช้เวลาถึง 10-20 ปี

ยูโมโตะยังบอกว่า แม้เป็นไปได้แต่คงยากมากที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นจะไต่ถึงระดับ 2% ที่รัฐบาลต้องการเพื่อลดหนี้สาธารณะจำนวนมหาศาลในปัจจุบัน

หัวใจสำคัญของแผนการล่าสุดของอาเบะคือ การลดภาษีรายได้นิติบุคคลที่ขณะนี้อยู่ที่ 36% และทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งซึ่งอัตราภาษีประเภทนี้อยู่ในระดับสูงที่สุดในโลก โดยจะให้ลดเหลือต่ำกว่า 30% ในช่วงเวลาหลายปีข้างหน้า มาตรการสำคัญยิ่งอีกประการหนึ่งคือการปฏิรูปกองทุนเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งมีมูลค่าสูงลิ่วถึง 1.26 ล้านล้านดอลลาร์ โดยที่จะมีจัดสรรเงินเข้าลงทุนในตลาดหุ้นโตเกียวมากขึ้น เนื่องจากหวังว่า จะเป็นการกระตุ้นให้กองทุนอื่นๆ ลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นเช่นกัน ตลอดจนจะส่งเสริมให้เกิดกระแสเรียกร้องผลตอบแทนที่ดีขึ้นจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นทั้งหลาย อันจะส่งผลทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องสนใจสร้างผลประกอบการที่ดีขึ้นมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

มาตรการปฏิรูป “ธนูดอกที่ 3 “คราวนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการมาตรการที่กล้าหาญเพื่อรักษาภาวะการฟื้นตัวปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่บีโอเจหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งสำคัญในขณะนี้คือ การแปรคำมั่นสัญญาของอาเบะให้เป็นการลงมือทำจริง เพื่อให้ภาคธุรกิจเกิดความมั่นใจมากพอที่จะเพิ่มการลงทุนของพวกเขาสำหรับอนาคต

ฮารูฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการอาวุโสกระทรวงการคลัง ยังเตือนว่า การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลโดยปราศจากแหล่งรายได้อื่นรองรับ อาจส่งผลลบต่อหนี้สาธารณะก้อนใหญ่ของญี่ปุ่น ทางที่ดีรัฐบาลควรขยายฐานภาษีเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป

แต่ปัญหาก็คือ ยังมีรายละเอียดสำคัญของขั้นตอนมากมายที่ต้องจัดการในเวลาต่อไป ไม่เพียงเท่านั้นข้อเสนอที่ห้าวหาญแต่กลายเป็นกรณีโต้เถียงทางการเมืองหลายอย่างหลายประการ ได้ถูกลดทอนหรือกระทั่งตัดออกหมด

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ตัดส่วนประกอบสำคัญบางประการในแผนปฏิรูปออก เพราะไม่ต้องการสร้างความผิดหวังเหมือนเมื่อครั้งอาเบะประกาศ “ธนูดอกที่สาม” ขยักแรกเดือนมิถุนายนปีที่แล้วที่ฉุดตลาดหุ้นร่วงกราว

สำหรับมาตรการอื่นๆ ตามแผนการล่าสุด ยังประกอบด้วยการส่งเสริมสนับสนุนพลังงานสะอาด, อุตสาหกรรมท่องเที่ยว, สุขอนามัย ควบคู่ไปกับการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิตโดยผ่าน “การปฏิวัติหุ่นยนต์”

อาเบะยังมุ่งมั่นผ่อนคลายความเข้มงวดในตลาดแรงงาน ด้วยการผ่อนกฎเกี่ยวกับการพำนักอาศัยสำหรับแรงงานต่างชาติมีทักษะ, ขยายโครงการฝึกอบรมแรงงานต่างชาติ, และส่งเสริมให้ผู้หญิงมีบทบาทในตำแหน่งบริหารมากขึ้น มาตรการด้านแรงงานเหล่านี้ยังมีจุดมุ่งหมายสำคัญอยู่ที่การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากร เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่กลุ่มประชากรสูงวัยขยายตัวเร็วที่สุดในโลก

พร้อมกันนี้ ผู้นำญี่ปุ่นยังเรียกร้องให้เพิ่มการสนับสนุนในเรื่องบริการดูแลเด็ก เพื่อส่งเสริมการมีบุตร ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาประชากรลด

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอที่ห้าวหาญก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการปฏิรูปภาคเกษตรกรรมกลับแผ่วลง เนื่องจากเผชิญการต่อต้านจากกลุ่มล็อบบี้เกษตรกรที่ทรงอิทธิพล

การลดความกล้าหาญเช่นนี้ ทำให้ นักวิเคราะห์หลายราย เป็นต้นว่า นาโอกิ ไออิซูกะ นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ป โกลบัล มาร์เกตส์ เจแปน วิจารณ์ว่า “สำหรับผม ธนูดอกที่สามที่ประกาศออกมานี้ เอาเข้าจริงก็เป็นแค่ลูกดอกเท่านั้น (ยังไม่ใช่ลูกธนู) แต่ผมยังหวังว่า อาเบะจะมีแผนการที่ห้าวหาญกว่านี้มานำเสนอในอนาคต”
กำลังโหลดความคิดเห็น