เอเอฟพี - ฝ่ายกบฏนิยมรัสเซียของยูเครน ตอบตกลงเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (23 มิ.ย.) ต่อข้อเสนอหยุดยิงชั่วคราวและเปิดหารือกับประธานาธิบดีที่ได้รับการหนุนหลังจากชาติตะวันตก เพื่อยุติวิกฤตการสู้รบนานกว่า 10 สัปดาห์ ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับที่สหภาพยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรห้ามนำเข้าสินค้าจากไครเมีย ตอบโต้กรณีที่ผละจากอกเคียฟผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแดนหมีขาว และเตือนมอสโกให้สนับสนุนแผนสันติภาพของยูเครน ในหนทางดีที่สุดสำหรับยุติเหตุความไม่สงบ ไม่เช่นนั้นคงต้องเจอลงโทษเพิ่มเติม
ถ้อยแถลงที่น่าประหลาดใจของผู้อ้างตัวว่าเป็นแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวในนาม “สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์” มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวอย่างเปิดเผยว่าเขาสนับสนุนแผนสันติภาพของเคียฟและเรียกร้องพวกแบ่งแยกดินแดนให้หยุดยิง
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของยูเครนยืนยันเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (23) ว่าเหตุปะทะ 2 จุดในภาคตะวันออก ดินแดนอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งเป็นแก่นกลางของความไม่สงบ ได้หยุดลงอย่างทันทีในช่วงบ่าย ด้วยทางผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของโดเนตสก์บอกว่าฝ่ายของเขาหยุดยิงตามประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวของประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ก่อนหน้านี้ และจะหยุดยิงไปจนถึงเช้าวันศุกร์ (27)
“เพื่อสนองตอบต่อคำประกาศหยุดยิงของเคียฟ เราให้สัญญาว่าจะหยุดยิงในส่วนของเรา การหยุดยิงนี้จะมีไปจนถึงวันที่ 27 มิถุนายน” นายโอเลกซานด์ร โบโรได บอกกับสื่อมวลชนรัสเซียจากเมืองโดเนตสก์ “เราหวังว่าระหว่างช่วงเวลานี้ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างหยุดยิง เราจะสามารถตกลงและเริ่มต้นปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับการจัดเจจรจาหาทางคลี่คลายความขัดแย้งอย่างสันติ”
ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นกำลังใจชั้นดีต่อนายโปโรเชนโก ที่ก้าวเข้าสู่อำนาจได้ราว 2 สัปดาห์และกำลังตะเกียกตะหายหาทางยุติวิกฤตเหตุความไม่สงบนองเลือดและหลีกเลี่ยงภาวะล่มสลายทางเศรษฐิจ อันถูกซ้ำเติมจากกรณีโดนรัสเซียระงับส่งก๊าซเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในขณะที่นายเปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดีคนใหม่ของยูเครน กำลังเตรียมการลงนามในข้อตกลงประวัติศาสตร์กับอียู อันเป็นแก่นกลางของวิกฤตกับรัสเซียในวันศุกร์ (27) นี้ เขาก็แสวงหาความช่วยเหลือจากพันธมิตรตะวันตกรอบใหม่ ในความพยายามยุติเหตุความไม่สงบที่ลุกลาทอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศ แม้เพิ่งประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว
ใจความสำคัญในแผนของนายโปโรเชนโกคือเปิดโต๊ะเจรจากับเหล่าผู้แทนจากดินแดนอุตสาหกรรมทางภาคตะวันออก แต่ไม่รวมถึงเหล่าผู้นำฝ่ายกบฏนิยมรัสเซีย เงื่อนไขที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งมอสโก บอกว่าคงมิอาจยุติเหตุสู้รบได้
ผู้นำรัสเซียรายนี้บอกว่า สนับสนุนความพยายามสร้างสันติภาพของนายโปโรเชนโก แต่อีกด้านหนึ่งก็สั่งกำลังพลซ้อมรบครั้งใหม่ทั่วพื้นที่ตอนกลางของประเทศ ทำเอาเหล่าผู้นำชาติยุโรรู้สึกฉงนและพากันตะเกียกตะกายถอดรหัสถึงเจตนาที่แท้จริงของนายปูติน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวันจันทร์ (23) ปูติน และประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้ต่อสายตรงหารือกันทางโทรศัพท์เพื่อหาทางยุติวิกฤตในยูเครน ด้วยผู้นำเครมลินย้ำถึงความสำคัญของการหยุดยิงและการเจรจาระหว่างสองฝ่าย
“ท่านวลาดิมีร์ ปูต้น ย้ำว่าการหยุดยิงจริงๆ และเริ่มต้นเจรจาโดยตรงระหว่างสองฝ่ายของสงครามคือเป้าหมายสูงสุดสำหรับทำให้สถานการณ์ทางภาคตะวันออกของยูเครนคืนสู่ภาวะปกติ” ถ้อยแถลงของวังเครมลินระบุ “สำคัญอย่างยิ่งที่ต้องหาทางคลี่คลายประเด็นด้านมนุษยธรรมในทันที ในนั้นรวมถึงให้ความช่วยเหลือพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามอย่างเร่งด่วน”
ในการประชุมที่ลักเซมเบิร์ก เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศของอียูเตือนว่ามันมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่ปูตินจะใช้โอกาสนี้เพื่อสันติภาพ “สัปดาห์นี้ควรเป็นการอุทิศตนเพื่อนำมาซึ่งสถานการณ์ความรุนแรงที่บรรเทาลง นี่คือเป้าหมายหลัก” โลรองต์ ฟาบุอิส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสบอก “เราเรียกร้องให้รัสเซียเข้าร่วมและมันจำเป็นต้องเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” พร้อมบอกต่อว่าพบเห็นสัญญาณที่ขัดแย้งกันในเจตนาของมอสโก
ด้านนายวิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ เน้นว่าอียูได้เริ่มทำงานขั้นต้นเกี่ยวกับแผนขยายมาตรการคว่ำบาตรมอสโกให้หนักหน่วงขึ้นแล้ว ด้วยมาตรการเหล่านั้นจะมีเป้าหมายเล่นงานภาคส่วนต่างๆ อย่างเฉพาะเจาะจงของเศรษฐกิจรัสเซีย “ในวันศุกร์นี้เราจะได้รู้ถึงแนวทางตอบโต้รัสเซีย” นายเฮกกล่าว “เราพร้อมใช้มาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้นให้กว้างขวางขึ้น”
อียูได้ขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลชาวรัสเซียและยูเครนต่อวิกฤตการณ์ในยูเครนมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอายัดทรัยพ์สินและห้ามเดินทาง อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีมาตรการลงโทษอย่างกว้างขวางใดๆ
ภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่ประสงค์ให้ดำเนินการมากกว่านี้ ทำให้ในวันจันทร์ (23) เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศอียู เห็นพ้องห้ามนำเข้าสินค้าจากไครเมีย เพื่อเป็นการย้ำถึงจุดยืนว่าสหภาพยุโรปไม่รับรองการผนวกดินแดนของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอย่างผิดกฎหมายของรัสเซีย
ยูเครน มีกำหนดลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางการค้าและการเมืองกับอียู ณ ที่ประชุมหนึ่งในช่วงปลาสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการคัดค้านอย่างหนักจากรัสเซีย ด้วยมอสโกมองว่าข้อตกลงประวัติศาสตร์ดังกล่าวว่าเป็นการที่ชาติตะวันตกรุกรานเข้าสู่อาณาเขตแห่งอิทธิพลในประเทศอดีตสหภาพโซเวียตของพวกเขา