xs
xsm
sm
md
lg

Feature : สุดทน! “กลุ่มแม่บ้านรักชาติ” ในญี่ปุ่นจับไมค์จวก “จีน-เกาหลีใต้” ขุดคุ้ยอดีตไม่เลิก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองเมื่อกลุ่มสตรีชาตินิยมเลือดซามูไรเปิดเวทีปราศรัยใกล้ทางข้ามที่ย่านธุรกิจชื่อดังใจกลางกรุงโตเกียว โดยมีการกล่าววิจารณ์รัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพที่ถูกบังคับใช้ในญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงประณาม “ความไม่รู้จักยั้งคิด” ของจีน และล้อเลียนธงชาติเกาหลีใต้

สมาชิกกลุ่มสตรีผู้รักชาติ “ฮานาโดเกอิ” ซึ่งจัดกิจกรรมดังกล่าว ได้ชูป้ายที่เขียนว่า “รัฐธรรมนูญญี่ปุ่นที่ไม่สามารถปกป้องอนาคตลูกหลานชาวญี่ปุ่นได้ อันตรายยิ่งกว่าพลังงานนิวเคลียร์”

พวกเธอเหล่านี้เป็นแม่บ้าน คุณแม่ และสตรีทำงานที่รู้สึกเหลืออดกับท่าทีของจีนและเกาหลีใต้ที่เรียกร้องไม่หยุดหย่อนให้ญี่ปุ่นต้องขอโทษซ้ำๆ ต่อความผิดที่ได้กระทำไว้เมื่อช่วงสงคราม

สิ่งที่สมาชิกกลุ่มสตรีชาตินิยม “ฮานาโดเกอิ” และ “โซโยกาเซ” ให้สัมภาษณ์สะท้อนถึงแนวคิดอนุรักษนิยมแบบสุดโต่ง พวกเธอไม่ต้องการให้ญี่ปุ่นต้องสำนึกผิดไปมากกว่านี้ และยังเห็นด้วยกับนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับหลังสงครามที่นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ พยายามผลักดันอยู่

“ตลอดเวลาที่ผ่านมาชาวญี่ปุ่นไม่เคยปริปากพูดไม่ว่าใครจะตำหนิเราอย่างไร” มาจิโกะ ฟูจิ รองประธานกลุ่มฮานาโดเกอิ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ระหว่างที่เธอและพรรคพวกนั่งรับประทานอาหารกลางวัน

“แต่ในเมื่อประเทศอื่นๆ ยังไม่เลิกประณามความผิดของเราสักที... ความอดทนของพวกเราก็หมดลงแล้ว”

สตรีเหล่านี้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อเผยแพร่ข้อมูล ติดต่อกับเครือข่าย และโน้มน้าวผู้คนให้เห็นด้วยกับจุดยืนของพวกเธอ ไม่ต่างจากวิธีการของนักเคลื่อนไหวกลุ่มทีปาร์ตีในสหรัฐฯ

ด้วยจำนวนสมาชิกที่ไม่มากนัก เสียงของพวกเธออาจแทบไม่มีผลใดๆ ต่อนโยบายของภาครัฐ แต่รัฐบาลอาเบะเองก็กำลังถูกกดดันให้ต้องเข้าถึงฐานเสียงที่กว้างยิ่งขึ้น

“ถึงจะเป็นคนกลุ่มเล็กๆ แต่อาจมีอำนาจต่อรองมากกว่าที่คิด เพราะสิ่งที่พวกเธอพูดดูเหมือนจะสะท้อนความรู้สึกของชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ด้วย” มาริ มิอูระ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโซเฟียในกรุงโตเกียว ระบุ

กลุ่มสตรีชาตินิยมต่างผิดหวังที่ อาเบะ ยอมโอนอ่อนตามแรงกดดันของต่างชาติในบางประเด็น และยิ่งไม่พอใจการทำงานของพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี)

“ในพรรคแอลดีพีเองก็มีคนบางกลุ่มที่พยายามทำลายเกียรติภูมิของญี่ปุ่น เพื่อผลประโยชน์ของจีนและเกาหลีใต้” มากิโกะ โอกะ ประธานกลุ่มสตรี ฮานาโดเกอิ กล่าว

“ดิฉันสนับสนุนนายกฯ อาเบะ แต่ไม่อาจทำใจสนับสนุนพรรคแอลดีพีได้”

ฮานาโดเกอิ ซึ่งแปลตามตัวว่า “นาฬิกาดอกไม้” และ ซาโยกาเซ ซึ่งหมายถึง “สายลมอ่อนๆ” เริ่มก่อตั้งขึ้นหลังจากที่พรรค เดโมเครติก ปาร์ตี ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ก้าวขึ้นมาเป็นรัฐบาลในปี 2009 พวกเธอเกรงว่า รัฐบาลดีพีเจจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติในญี่ปุ่นมีสิทธ์เลือกตั้ง หรือให้สิทธิแก่คู่สมรสในการใช้นามสกุลเดิมของตนหลังแต่งงาน ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นล้วนเป็นสิ่งที่พวกอนุรักษ์นิยมยอมรับไม่ได้

ซาโยกาเซซึ่งมีสมาชิกราว 500 คนทั่วประเทศก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ส่วน ฮานาโดเกอิ ซึ่งอ้างว่ามีแนวร่วมราวๆ 840 คน และเป็นผู้ชายถึง 300 คน เกิดขึ้นในอีก 1 ปีให้หลัง

สตรีชาตินิยมทั้ง 2 กลุ่มเรียกร้องให้ญี่ปุ่นยกเลิกแถลงการณ์ขออภัยในปี 1993 ของเลขาธิการคณะมนตรี โยเฮอิ โคโนะ ซึ่งยอมรับว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีส่วนรู้เห็นกับการบีบบังคับสตรีท้องถิ่น โดยเฉพาะสตรีชาวเกาหลี ให้มาทำงานในซ่องเสโภณีเพื่อบำเรอกามแก่ทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

“วีรบุรุษสงครามของญี่ปุ่นเอาผู้หญิงเกาหลีมาเป็นทาสกามหรือ? นี่มันเรื่องโกหกทั้งเพ” สมาชิกกลุ่มซาโยกาเซประกาศผ่านไมโครโฟนใกล้กับศาลเจ้ายาสุกุนิ สถานที่สักการะดวงวิญญาณทหารญี่ปุ่นที่ตายในสงคราม ขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ เชิญชวนให้คนที่ผ่านไปมาช่วยลงชื่อถอดถอนแถลงการณ์ขออภัย

เกาหลีใต้และจีนมองว่าญี่ปุ่นไม่เคยแสดงความสำนึกผิดอย่างเพียงพอต่อประเด็น “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” ขณะที่พวกอนุรักษ์นิยมในเมืองปลาดิบอ้างว่า ไม่มีหลักฐานยืนยันว่ารัฐบาลญี่ปุ่นในยุคนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับการบังคับผู้หญิงมาเป็นโสเภณี และในยามศึกสงคราม กองทัพชาติไหนๆ ก็ล่วงละเมิดสตรีท้องถิ่นด้วยกันทั้งสิ้น

นายกฯ อาเบะ ก็เคยตั้งคำถามเรื่องความเหมาะสมของแถลงการณ์ โคโนะ และถึงกับระบุว่ารัฐบาลของเขาจะ “ทบทวน” แถลงการณ์นั้นเสียใหม่ แต่เมื่อคำนวณผลกระทบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในที่สุด อาเบะ ก็รับรองว่าจะไม่มีการแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น