เอเจนซีส์ - หลังการยึดโมซุลและติกริต พร้อมประกาศคืบหน้าเพื่อยึดกรุงแบกแดด รัฐสภาอิรักไม่สามารถเปิดประชุมเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินได้ทำให้รัฐบาลตกอยู่ในสภาพเป็นอัมพาต และต้องประกาศรับสมัครทหารอาสาเพื่อติดอาวุธป้องกันการรุกคืบของกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและเลแวนต์ ( ISIL) หรือรู้จักในอีกนามหนึ่งว่ากลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย (ISIS) ที่มุ่งหน้าเข้าใกล้กรุงแบกแดด สหรัฐฯเปลี่ยนท่าทีเริ่มต้องการให้ความช่วยเหลือมากขึ้น น้ำมันดิบมีแนวโน้มถีบตัวอย่างรวดเร็วหลังกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง ISISยึดเมืองแหล่งน้ำมันดิบได้ในคืนที่ 4 ส่วนกองทัพอากาศอิรักได้โจมตีฐานที่มั่นกลุ่มกบฎทางอากาศในเมืองโมซุล ที่ยังมีชาวเมืองร่วม 1.3ล้านอาศัยอยู่ ในขณะที่อิหร่านได้ส่งหน่วยรบพิเศษเพื่อเข้าช่วยเหลือแบกแดดยันการลุกคืบ
ความโหดร้ายของเหล่านักรบญิฮาดกลุ่มกบฏกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและเลแวนต์ (ISIL) หรือรู้จักในอีกนามหนึ่งว่ากลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย (ISIS) ปรากฏให้เห็นในวันพุธ (11) ที่พยานในเหตุการณ์ได้บรรยายถึงภาพศพทหารและตำรวจอิรักนอนเรียงเกลื่อนถนน ที่ทั่วร่างชุ่มไปด้วยเลือดและรถยนต์ที่ลุกโชนในกองเพลิง เป็นเสมือนสัญญาณบอกเหตุขั้นร้ายแรงของISIS คืบหน้าสู่กรุงแบกแดด โดยทาง ISIS ส่งวิดีโอคลิปโฆษณาชวนเชื่อของทางกลุ่มที่มีภาพนักธุรกิจชาวอิรักถูกลากตัวลงจากรถ และนักรบญิฮาด ISIS ใช้ปืนพกจ่อที่ศรีษะทางด้านหลังปลิดชีพชายผู้นี้ข้างถนน
ในขณะเดียวกัน กองทัพอากาศอิรักได้ทิ้งระเบิดอย่างน้อย 4 ลูกที่ฐานที่มั่นในเมืองโมซุลและบริเวณโดยรอบของกลุ่มก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรงที่ได้ต้นแบบมาจากเครีอข่ายอัลกออิดะห์ที่พบว่ายังมีชาวเมืองอย่างน้อย 1.3 ล้านคนยังอาศัยอยู่ภายในตัวเมือง
จากการลุกคืบยึดเมืองโมซุลและติกริตของกลุ่มกบฏ ประกอบกับสมาชิกรัฐสภาของอิรักไม่เดินทางมาประชุมเพื่อประกาศการใช้ภาวะฉุกเฉิน ทำให้รัฐบาลอิรักตกอยู่ในสภาพไร้อำนาจที่ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินได้ จึงต้องประกาศเรียกร้องให้ประชาชนอิรักเข้าร่วมกองทัพเพื่อติดอาวุธป้องกันกรุงแบกแดด และเป็นผลให้ชาวกรุงแบกแดดทั้งหนุ่มและสูงอายุต่างพร้อมใจต่อแถวรอหลายพันคนที่ศูนย์รับสมัครกองกำลังอาสาหลายแห่งกรอกใบสมัคร “กองทัพของพ่อ” เพื่อป้องกันกรุงแบกแดด
และชาวอังกฤษที่ทำงานในกรีนโซนในกรุงแบกแดดได้เปิดเผยว่า เป็นส่วนปลอดภัยที่สถานทูตประเทศต่างๆ ตั้งอยู่ต่างเตรียมตัวในขั้นฉุกเฉิน การคืบหน้าของกลุ่มกบฏ ISIS ทำให้วอชิงตัน ลอนดอน และทั่วตะวันออกกลางตกอยู่ในอาการตกใจ ที่ถึงแม้ว่าจำนวนทหารในกองทัพอิรักจะมีจำนวนมากกว่านักรบญิฮาด แต่ดูเหมือนว่ากองทัพอิรักได้ละลายในการเผชิญหน้ากับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงทั้งสองกลุ่มนี้ และปล่อยให้ก่อการร้ายยึดเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ รถถัง 15 คัน อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ รถหุ้มเกราะทีครั้งหนึ่งเป็นของกองทัพสหรัฐฯ และยังยึดเงินสดสกุลเงินดินาร์ในเซฟธนาคารในโมซุลที่มีมูลค่าร่วม 350 ล้านปอนด์หลังจากการบุกเข้าปล้น
จากการให้สัมภาษณ์ของบรรดาทหารราบอิรักที่เปิดเผยด้วยความขมขื่นว่า ผู้บังคับบัญชาของพวกเขาได้แอบหลบหนีไปในเวลากลางคืนโดยไม่อยู่ช่วยป้องกันเมือง โดยมีทหารราบอิรักนายหนึ่งกล่าวว่า “ผู้บังคับบัญชาหักหลังพวกเรา เหล่าผู้บังคับบัญชาทิ้งลูกน้องไว้เบื้องหลัง เมื่อพวกเราตื่นขึ้นมาในตอนเช้า บรรดานายทหารระดับสูงหายตัวไปหมดแล้ว”
ล่าสุดทั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามาที่ได้เปลี่ยนท่าที โดยเปิดเผยว่าจะเข้าแทรกแซงครั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาเหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่ยังไม่ส่งกองทหารเข้ามายังอิรัก แต่วิเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษปฎิเสธที่จะช่วยเหลืออิรักด้านการทหารเพราะในขณะนี้อิรักเป็นประชาธิปไตยแล้ว และประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน โรฮานี ได้ส่งรบพิเศษเรโวลูชันนารี การ์ด 2 หน่วยเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลอิรักเพื่อยึดเมืองไทกริสกลับคืน
ส่วนสถานการณ์ด้านตัวประกันชาวตุรกีร่วม 80 คนที่ถูกจับในโมซุลโดยกลุ่มนักรบญิอาด ISIS ที่มี ออซตุส ยิลมาซ (Ozturk Yilmaz )กงสุลใหญ่ตุรกีในโมซุล รวมอยู่ในนั้น และสื่ออังกฤษรายงานว่า รัฐบาลตุรกีอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อปล่อยตัวพลเมืองชาวตุรกี โดยล่าสุดมีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า ตัวประกันบางส่วนได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้ว แหล่งข่าวรัฐบาลตุรกีเปิดเผยเมื่อวานนี้ (12)