เอเจนซีส์/เอเอฟพี - ในวันนี้(9) ตำรวจปราบจลาจลได้ใช้กำลังและยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายการประท้วงที่สนับสนุนการผละงานของพนักงานบริษัทรถไฟใต้ดินเมโทรที่มีรัฐบาลบราซิลเป็นเจ้าของ ที่ผู้ประท้วงไผู้ประท้วงที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานได้พร้อมใจลงมติก่อนหน้านี้ที่จะยังคงมาตรการผละงานต่อไปอย่างไม่มีกำหนดในเซาเปาลู เมืองที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล ถึงแม้มีคำสั่งจากศาลแรงงานบราซิลก่อนหน้านี้ที่ให้กลุ่มผู้ประท้วงยกเลิกการผละงานเพื่อประท้วงการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเวิลด์คัพ 2014 ของรัฐบาลบราซิล
ในวันจันทร์(9)มีกลุ่มชาวบราซิลราว 150คนได้ทำการจุดไฟเผากองขยะที่ปิดกั้นถนนสายหลักในย่านศูนย์กลางธุรกิจของบราซิล เป็นผลทำให้ตำรวจปราบจลาจลในเซาเปาลูหลายสิบนายต้องยิงระเบิดแสงและยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนการผละงานสหภาพแรงงานรถไฟใต้ดินเมโทรที่ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลา 5 วันแล้ว
โดยผู้ประท้วงต่างตะโกนว่า “ไม่!!!สำหรับการกดขี่” ก่อนที่จะโดนตำรวจเข้าสลาย และมีเฮลิคอปเตอร์ของรัฐจำนวนหนึ่งบินสังเกตการณ์อยู่เหนือบริเวณนั้น
ซึ่งตำรวจต้องใช้ระเบิดแสงต่อกลุ่มผู้ประท้วงราว 70คนที่เป็นพนักงานรถไฟใต้ดินเมโทรซึ่งพยายามฝ่าเข้าไปภายในสถานีรถไฟใต้ดินเซนทรัลเมโทรเพื่อหว่านล้อมให้บรรดาซุปเปอร์ไวเซอร์ของพวกเขาตัดสินใจเข้าร่วมการประท้วงผละงาน อัลติโน เมโล ดอส ปราเซเรส (Altino Melo dos Prazeres )ประธานสหภาพแรงงานเมโทรกล่าว
และพบว่าเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลได้ควบคุมกลุ่มพนักงานราว 12คนที่สถานีรถไฟใต้ดินในที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตาและกระบองในการเข้าสลายการประท้วงในวันแรก(5)ของการเริ่มต้นผละงาน แหล่งข่าวจากสหภาพแรงงานเมโทรเผย
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ ศาลแรงงานบราซิลได้พิพากษาว่า สหภาพแรงงานรถไฟใต้ดินบริษัทเมโทรใช้อำนาจในทางที่ผิด และเกราลโด อัลคมิน(Geraldo Alckmin) ผู้ว่าการรัฐเซาเปาลู เปิดเผยว่า เขาจะไล่ออกเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ผละงานในวันจันทร์(9) โดยพบว่าสถานีรถไฟใต้ดินเมโทรส่วนใหญ่ปิดให้บริการนับตั้งแต่วันพฤหัสบดี(5)เป็นต้นมา ทำให้เซาเปาลูเกิดปัญหาด้านจราจรอย่างสาหัส
ความขัดแย้งเกิดขึ้นมาจากเมืองเซาเปาลูกำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันรอบพิธีเปิดเวิลด์คัพ 2014 ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้(12) โดยผู้ประท้วงที่เป็นคนงานเรียกร้องการเพิ่มอัตราค่าจ้าง 12.2% จากแต่เดิมที่ยื่นข้อเรียกร้องไปที่ 16.5 % แต่บริษัทรถไฟใต้ดินเมโทรที่มีรัฐบาลบราซิลเป็นเจ้าของยื่นข้อต่อรองเหลือแค่ 8.7% นอกจากนี้ศาลในเซาเปาลูได้กล่าวว่า บริษัทรถไฟใต้ดินเมโทรได้กระทำด้วยเจตนาบริสุทธิเป็นที่ตั้ง และยังพิพากษาว่า ฝ่ายพนักงานได้ฝ่าฝืนข้อตกลงการผละงานโดยไม่จัดให้ยังคงมีบริการสาธารณะในระดับต่ำสุดเพื่อให้สาธารณชนยังคงใช้บริการรถไฟใต้ดินต่อไปได้โดยไม่ได้รับผลกระทบในการผละงานมากนัก โดยกำหนดว่ารถไฟใต้ดินที่มีถึง 5สายอย่างน้อย 70% ควรที่จะสามารถให้บริการได้ตลอดทั้งวัน และต้องมีการให้บริการรถไฟใต้ดิน 100%ในช่วงเช้าและเย็นของชั่วโมงเร่งด่วน ทั้งนี้ศาลบราซิลได้มีคำพิพากษาว่า สหภาพแรงงานเมโทรต้องจ่ายค่าปรับ100,000 เรียลต่อวัน (45,000 ดอลลาร์) สำหรับ 4 วันแรกของการประท้วงผละงาน และ 500,000 เรียลต่อวัน(220,000 ดอลลาร์)นับตั้งแต่วันจันทร์( 9)นี้
และในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ทางสหภาพได้จัดให้มีการลงคะแนนเสียง และผลมติทำให้สหภาพต้องมีการผละงานที่ยาวนานออกไป
โดยสหภาพแรงงาน 2องค์กรที่อยู่ในระหว่างการเจรจากับบริษัทรถไฟใต้ดินเมโทรได้เปิดเผยว่า การประท้วงผละงานจะถูกยกเลิกทันทีที่ข้อเสนอของทางสหภาพได้รับการพิจารณา “นี่ไม่ใช่เป็นเจตนาของเราที่ต้องการดำเนินการผละงานอย่างต่อเนื่องไปจนถึงการแข่งขันเวิลด์คัพ ความตั้งใจของเราเพื่อต้องการแก้ปัญหาแต่นั่นควรเป็นเป้าประสงค์ของรัฐบาลบราซิลเช่นกัน” อัลติโน ปราเซเรซ (Altino Prazeres ) ประธานกลุ่มสหภาพแรงงานเมโทรให้สัมภาษณ์กับ โอ โกลโบ หนังสือพิพม์รายวันท้องถิ่นบราซิล
ทั้งนี้แคธี วัตสัน ผู้สื่อข่าวด้านธุรกิจอเมริกาใต้ของบีบีซีได้วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า ที่ในเซาเปาลูนั้น ความรู้สึกของสมาชิกสหภาพแรงงานในช่วงบ่ายวันอาทิตย์(8)นั้นเต็มไปด้วยความโกรธและสับสน และใครก็ตามที่เสนอความคิดที่จะหยุดการผละงานจะได้รับเสียงโห่จากฝูงชนขนาดใหญ่เป็นการตอบแทนที้สำนักงานใหญ่ของสหภาพแรงงานเมโทร
และวัตสันรายงานต่อว่า ข้อเรียกร้องส่วนใหญ่ในการปราศรัยล้วนแต่ชี้ไปถึงความต้องการเพิ่มค่าจ้างของพนักงาน แต่กระนั้นยังมีข้อถกเถียงเรื่องเวิลด์คัพ 2014ให้ต้องถกเถียง โดยพนักงานรถไฟใต้ดินเมโทรสวมผ้ากันเปื้อนแบบเต็มตัวที่มีข้อความ “Transporte padrao FIFA” เขียนไว้ที่มีความหมายว่า “ระบบการขนส่งถือเป็นมาตรฐานของฟีฟ่า” ซึ่งเห็นได้ชัดถึงความขมขื่นของชาวบราซิลในเม็ดเงินมหาศาลที่ทุมลงไปในการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพมหกรรมเวิลด์คัพครั้งนี้ โดยพนักงานสหภาพต่างได้โยนบัตรประจำตัวพนักงานในอากาศเพื่อลงคะแนนเสียง และตะโกนว่า “พวกเราจะไม่เลิกการประท้วง” และกล่าวต่อไปว่า จะรวมตัวที่ด้านนอกของสถานีรถไฟใต้ดินเมโทรแห่งหนึ่งในเช้าวันนี้( 9)เพื่อเดินหน้าการผละงานต่อไป
โดยในคิวประเดิมแมตช์แรก บราซิลจะเตะฟาดแข้งกับโครเอเชียที่สนามฟุตบอลอารีน่า โครินเธียนส์ ที่เพิ่งสร้างใหม่ที่นอกเมืองเซาเปาลูเพื่อรองรับการแข่งขันครั้งนี้ และหากไม่มีการเชื่อมต่อระบบการขนส่งสาธารณะเลยจะถือเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับแฟนฟุตบอลตลอดจนเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน เซาเปาลูที่มีพลเมืองร่วม 20ล้านคนต้องทนอยู่กับระบบการขนส่งสาธารณะที่ด้อยประสิทธิภาพ ทำให้คนส่วนใหญ่ชินชากับปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนัก แต่สภาพจลาจลบนท้องถนนที่เกิดจากสภาพจราจรที่ติดมากเป็นพิเศษใน 2วันแรกของการผละงานนั้นเกินกว่ามาตรฐานปกติของเซาเปาลูที่รองรับได้ เพราะในช่วงเวลาเร่งด่วนในตอนเช้ามีรถติดยาวเป็นพืดร่วม 200 กม.ตลอดทั่วทั้งเมือง
