เอเอฟพี - ทองคำขยับขึ้น ส่วนหุ้นสหรัฐฯ บวกแรงวานนี้ (5 มิ.ย.) ด้วยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ หลังธนาคารกลางยุโรปดำเนินมาตรการเชิงรุกกระตุ้นเศรษฐกิจที่เปราะบาง และหลีกเลี่ยงภาวะเงินฝืด อย่างไรก็ตาม ปัจจัยนี้ก่อความผันผวนแก่ดอลลาร์ เลยส่งผลให้ตลาดน้ำมัน ปิดลบในกรอบแคบๆ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 98.58 จุด (0.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,836.11 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 12.58 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,940.46 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 44.58 จุด (1.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,296.23 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขานรับอย่างคึกคักต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของธนาครกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลักทั้ง 3 ประเภท ในนั้นรวมถึงปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสู่แดนลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
อีซีบี หวังว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยบรรเทาปัญหาเงินฝืดด้วยการกดให้ยูโรอ่อนค่าลง และกระตุ้นให้แบงก์ต่างๆ ปล่อยเงินกู้จากคลังเงินสดส่วนเกินให้กับธนาคารรายอื่นๆ ซึ่งในที่สุดเงินกู้เหล่านี้ก็จะไหลเวียนสู่เศรษฐกิจของยูโรโซน ซึ่งต้องพึ่งพาการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการลงทุนและการจ้างงาน
นักวิเคราะห์มองว่ามาตรการใหม่ของอีซีบี นั่นหมายความว่าสภาพคล่องของโลกจะยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กำลังค่อยๆ ลดระดับมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนลง
มาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีรวมถึงความเคลื่อนไหวผ่อนคลายอื่นๆ กระตุ้นให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นอย่างทันควัน และปิดบวกวันเดียวมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดี (5) โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,253.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านราคาน้ำมันวานนี้ (5) ปิดลบ หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป ก่อผันผวนแก่ค่าเงินดอลลาร์ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 16 เซ็นต์ ปิดที่ 102.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 39 เซ็นต์ ปิดที่ 108.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เบื้องต้นดอลลาร์ดีดขึ้นอย่างแรงเมื่อเทียบกับยูโร ทว่าก็ร่วงลงหนักอย่างฉับพลับ หลังจากอีซีบีแถลงปรับลดดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เปราะบาง และป้องกันภาวะเงินฝืด
อีกด้านหนึ่งนักลงทุนก็จับตาไปที่การประชุมผู้นำโลก จี7 เป็นเวลา 2 วันในบรัสเซลส์ โดยไม่มี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเข้าร่วม หลังจากมอสโกถูกขับออกจากกลุ่ม จี8 เมื่อเดือนมีนาคม ทั้งนี้ จี7 เรียกร้องรัสเซีย หยุดก่อความปั่นป่วนแก่ยูเครน ไม่เช่นนั้นจะโดนมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม
