เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลียวันนี้ (4 มิ.ย.) แถลงว่า คาดหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงว่าด้วยความมั่นคง และข่าวกรองกับอินโดนีเซีย ในเวลาที่เขากำลังหาหนทางฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ ที่กำลังสั่นคลอนจากข้อกล่าวหา แดนจิงโจ้ลอบสอดแนมผู้นำแดนอิเหนา
แอบบอตต์มีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน แห่งอินโดนีเซียในวันนี้ (4) โดยเขายอมรับว่า สายสัมพันธ์อันสำคัญยิ่งของทั้งสองประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ยากลำบาก
เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างแดนจิงโจ้กับแดนอิเหนาได้ถลำลงสู่จุดต่ำสุด ภายหลังที่มีรายงานข่าวเปิดโปงว่า สายลับออสซี่พยายามลอบดักฟังโทรศัพท์ของยุโธโยโน และบรรดาผู้ใกล้ชิด
จาการ์ตาแถลงว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ “ยากจะเข้าใจ” และได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียกลับจากกรุงแคนเบอร์รา โดยเขาเดินทางกลับมาถึงจาการ์ตาเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งยังสั่งระงับความร่วมมือในโครงการต่างๆ มากมาย
หนึ่งในโครงการที่ถูกระงับไปคือความร่วมมือด้านการรับมือผู้อพยพที่เดินทางเข้าออสเตรเลียทางเรือ ซึ่งนับเป็นประเด็นปัญหาที่มีความละเอียดอ่อน ทั้งนี้จาการ์ตาไม่พอใจที่ออสเตรเลียดำเนินปฏิบัติการสกัดกั้นผู้ลี้ภัยที่มากับเรือ ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาจากอินโดนีเซีย โดยมอบหน้าที่ให้กองทัพแดนจิงโจ้เป็นหัวเรือใหญ่ในภารกิจ
แอ็บบอตต์เปิดเผยว่า เขาตัดสินใจจะอาศัยการจังหวะระหว่างที่หารือกับยุโธโยโน ณ เกาะบาตัม ของอินโดนีเซีย เพื่อกอบกู้ความสัมพันธ์ของสองประเทศ
เขากล่าวว่า “ในช่วงราว 9 เดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของเรากับอินโดนีเซียได้ดำเนินมาถึงจุดที่ยากลำบาก” พร้อมทั้งเสริมว่า ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนเขาก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำ
“วันนี้ ผมเสนอตัวจะจัดการปัญหานั้นเอง”
ในช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศกำลังขัดแย้งกันอย่างหนักหลังการสอดแนมถูกเปิดโปง ยุโธโยโนได้กล่าวว่า จะต้องมีการกำหนดแนวทางปฏิบัติขึ้นมาควบคุมพฤติกรรม
แอ็บบอตต์กล่าวว่า เขามั่นใจว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว
เขาระบุว่า “ผมจะพูดคุยกับประธานาธิบดี ยุโธโยโน ในหลายๆ ประเด็น และคาดหวังว่า ในอนาคตอันใกล้ เราจะได้จัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยข่าวกรอง”
“ผมคิดว่า เราจำเป็นจะต้องจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแบ่งปันข่าวกรองระหว่างออสเตรเลียกับอินโดนีเซีย เพราะเราได้รับผลประโยชน์จากการแบ่งปันข่าวกรองและความมั่นคงร่วมกันมากมาย”
เขากล่าวว่า การจัดทำข้อบันทึกความเข้าใจไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อรับมือกับผู้อพยพเข้าเมืองทางเรือเท่านั้น แต่ยังเป็น “การต่อสู้กับการแผ่ขยายของลัทธิก่อการร้ายฝ่ายนักรบญิฮัด” ในช่วงที่กำลังเกิดกระแสวิตกกังวล จากกรณีพวกติดอาวุธหัวรุนแรงที่เดินทางกลับจากการสู้รบในซีเรีย
ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศต่างก็มีพลเมืองเดินทางไปร่วมต่อสู้ในสงครามซีเรีย
มาร์ตี นาตาเลกาวา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าววานนี้ (3) ว่าแนวปฏิบัติดังกล่าวอยู่ในมือของออสเตรเลียแล้ว
เขากล่าวว่า “เรากำลังรอท่าทีจากฝ่ายออสเตรเลีย”
“แนวปฏิบัติดังกล่าวทำได้ง่ายมาก คนไร้สมองยังเข้าใจ โดยหลักๆ แล้วก็ระบุว่า ทั้งสองประเทศจะต้องไม่ดำเนินภารกิจเฝ้าระวังที่ผิดปกติ”
การประชุมบนเกาะบาตัมมีขึ้นหนึ่งวันหลังอินโดนีเซียยอมรับว่า เดือนที่แล้วได้อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวฟังบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างยุโธโยโน กับแอ็บบอตต์ ที่มุ่งปรับปรุงความสัมพันธ์อันร้าวฉานจากกรณีการละเมิดเกณฑ์วิธีด้านความมั่นคง
จาการ์ตากล่าวว่า การกระทำเช่นนั้นถือเป็นความผิด ขณะที่แอ็บบอตต์แย้งว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ
ภายหลังจากการประชุมที่เกาะบาตัม แอ็บบอตต์จะมุ่งหน้าไปยังฝรั่งเศสเพื่อร่วมงานครบรอบ 70 ปี วัน ดี-เดย์ จากนั้นก็จะเดินทางเยือนแคนาดา และสหรัฐฯ