xs
xsm
sm
md
lg

“อียู” เตรียมส่ง “ทีมตรวจสอบ” มาอินเดีย ก่อนรู้ผลยกเลิก “แบนนำเข้ามะม่วงอัลฟองโซ” จากแดนภารตะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - สหภาพยุโรปเตรียมส่งทีมตรวจสอบมาอินเดียในเดือนกันยายนนี้เพื่อตรวจสอบมาตรการควบคุมศัตรูพืชที่พบว่ามีแมลงผลไม้ตกค้างในมะม่วงอัลฟองโซล็อตนำเข้าสหภาพยุโรปจำนวน 207ล็อตในปี 2013ทำให้อินเดียถูกสั่งห้ามส่งผลไม้ชนิดนี้เข้าสู่ตลาดยุโรปจนถึงธันวาคม 2015 ซึ่งมะม่วงอัลฟองโซเป็นสินค้าที่นิยมมากในอังกฤษ และรายงานสรุปจากทีมตรวจสอบจะนำมาสู่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าทางอียูจะเลิกสั่งห้ามนำเข้ามะม่วงจากอินเดียหรือไม่

ไทมส์ ออฟ อินเดีย สื่ออินเดีย รายงานในวันนี้(3)ว่า นี่เป็นคำยืนยันจาก คีธ วาซ (Keith Vaz) สส.อังกฤษพรรคแรงงานที่มีเชื้อชาติอินเดียได้เดินทางไปกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมเพื่อพบกับดาเชียน ซีโอลอส ( Dacian Ciolos) กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านเกษตรกรรมเพื่อขอยกเลิกคำสั่งห้ามการนำเข้ามะม่วงอัลฟองโซจากอินเดีย โดยจากคำยืนยันของวาซพบว่าทีมตรวสอบของอียูจะตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่า มะม่วงอัลฟองโซที่ปลูกในอินเดียสามารถนำเข้ามายังตลาดยุโรปได้หากอินเดียทำตามที่กำหนดให้มีมาตรฐานรับรองปลอดศัตรูพืช (phyto-sanitary) ที่สหภาพยุโรประบุไว้สำหรับสินค้าการเกษตรนำเข้าสู่ตลาดสหภาพยุโรป

และอินเดียยังต้องส่งคำยืนยันต่อสหภาพยุโรปในเครื่องมือใหม่ที่ป้องกันปนเปื้อนศัตรูพืชในสินค้าส่งออกทางการเกษตรกรรมซึ่งถือเป็นมาตรการใหม่ของประเทศ หลังจากนั้นสำนักงานอาหารและสัตวแพทย์แห่งสหภาพยุโรป(FVO)จะทำการตรวจสอการรับรองของอินเดียภายในสิ้นปี 2014 แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อียูเผยต่อไทมส์ ออฟ อินเดีย และกล่าวเสริมว่า “และผลสรุปเรื่องการยกเลิกการนำเข้ามะม่วงอัลฟองโซนั้นจะขึ้นอยู่กับรายงานของทีมตรวจสอบ”

จากการให้สัมภาษณ์ของวาซต่อไทมส์ ออฟ อินเดีย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษกล่าวว่า “คำสั่งห้ามการนำเข้ามะม่วงอัลฟองโซจากอินเดียถือว่าไม่ยุติธรรม” และยังย้ำว่า “คำสั่งห้ามนี้ต้องถูกยกเลิกโดยเร็วที่สุด เพราะเกษตรกรอินเดียผู้ปลูกมะม่วงอัลฟองโซได้รับผลกระทบอย่างหนักทุกวัน และมีบางส่วนถึงกับต้องล้มละลายจากคำสั่งห้ามการนำเข้าที่ไร้สาระเช่นนี้ และธุรกิจชาวอังกฤษต้องได้รับความเสียหายหลายล้าน และอินเดียมีส่วนแบ่งเพียงแค่ 37 เท่าของตลาดนำเข้ามะม่วงในปี 2013 ในขณะที่ปากีสถานมีส่วนแบ่งถึง 136เท่า และสาธารณรัฐโดมินิกันมีสัดส่วนราว 46 เท่า และยังไม่มีเหตุผลแน่ชัดว่าเหตุใดอินเดียจึงถูกเพ่งเล็งเช่นนี้”

นอกจานี้วาซยังย้ำต่อว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้การเยือนของทีมตรวจสอบอียูประสบความสำเร็จ ที่เจ้าหน้าที่มีความพอใจที่ปัญหาต่างๆได้รับการแก้ไขอย่างลุล่วงแล้ว การที่จะยังทำให้คำสั่งห้ามนำเข้ามะม่วงอัลฟองโซไปจนถึงธันวามคม 2015จะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียและสหภาพยุโรป”

และบีบีซีรายงานเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมล่าสุดว่า อังกฤษนำเข้ามะม่วงทั้งหมดราว 56,205 ตันต่อปี ซึ่งมีสัดส่วนการนำเข้าผลผลิตจากอินเดียอยู่ที่ 4,816 ตัน หรือราว8.5% ทั้งนี้มะม่วงอัลฟองโซถือเป็นราชาผลไม้ของอินเดียที่มีราคาแพงอันเนื่องมาจากความหวาน สีสัน และรูปลักษณ์ที่น่าทาน โดยส่วนมากปลูกเป็นหลักในพื้นที่ทางภาคตะวันตกของอินเดีย โดยเฉพาะที่รัฐมหาราษฎระ ที่เมืองเทวกาด (Devgad) ในเขตโคกัน (Kokan) ได้ชื่อว่ามีคุณภาพดีที่สุด แต่ที่ส่งออกมากที่สุดมาจากเมืองรัตนคีรี (Ratnagiri) รัฐมหาราษฎระเช่นกัน ที่เมืองปูเณ่ก็ปลูกเป็นพื้นที่กว้างขวางด้วย แม้ว่าผลิตผลส่วนใหญ่จะมาจากรัฐมหาราษฎระ อัลฟองโซก็ยังปลูกในพื้นที่อื่นๆ เช่น รัฐคุชราต และรัฐทางภาคใต้ของอินเดียอีกด้วย
คีธ วาซ (Keith Vaz) สส.อังกฤษพรรคแรงงานและภรรยา
กำลังโหลดความคิดเห็น