เอเอฟพี – สหรัฐฯ ยอมรับมี “ชาวอเมริกัน” ร่วมต่อสู้กับกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงและก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในซีเรีย ซึ่งถือเป็นกรณีแรกที่พบ นับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อปี 2011
คำยืนยันจากรัฐบาลสหรัฐฯมีขึ้น ท่ามกลางกระแสความกังวลเกี่ยวกับนักรบต่างชาติจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้าไปยังซีเรีย ขณะที่สงครามกลางเมืองซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีและคร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 162,000 คน ยังไม่มีวี่แววจะยุติลงได้
เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุชื่อของมือระเบิดฆ่าตัวตายรายนี้ว่า โมเนอร์ โมฮัมหมัด อบู-ซัลฮา ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดรถบรรทุกโจมตีกองกำลังซีเรียในจังหวัดอิดลิบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25)
อบู-ซัลฮา ใช้นามแฝงว่า อบูฮุรอยเราะห์ อัล-อัมริกี โดยคำว่า อบูฮุรอยเราะห์ นั้นเป็นนามของสาวกคนหนึ่งของศาสดามูฮัมหมัดแห่งศาสนาอิสลาม ส่วน อัล-อัมริกี เป็นภาษาอาหรับ หมายถึง “ชาวอเมริกัน”
ซากี ยอมรับว่า เหตุระเบิดรถบรรทุกที่จังหวัดอิดลิบทางตอนเหนือของซีเรีย อาจเป็นครั้งแรกที่ผู้ก่อเหตุเป็นชาวอเมริกัน
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า นักรบต่างชาติที่เข้าไปปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาลซีเรียในรอบ 3 ปีที่ผ่านมามีจำนวนระหว่าง 9,000-11,000 คน โดยส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่สามารถระบุแน่นอนได้ว่ามีชาวอเมริกันรวมอยู่ด้วยมากน้อยเท่าใด
อย่างไรก็ดี มีรายงานจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า พลเมืองอเมริกันที่เดินทางไปยังซีเรียเพื่อเข้าร่วมกับฝ่ายกบฏล้มล้างรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด น่าจะมีจำนวนราว 100 คน
อบู-ซัลฮา ได้เข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธ อัล-นุสรา ฟรอนท์ ซึ่งถูกรัฐบาลสหรัฐฯขึ้นบัญชีก่อการร้ายไปเมื่อไม่นานนี้
สมาชิก อัล-นุสรา ฟรอนท์ ชาวซีเรียคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทม์สว่า อบู-ซัลฮา ซึ่งอยู่ในวัยยี่สิบกว่าๆ เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับที่พูดภาษาอาหรับแทบจะไม่ได้ แต่มีความมุ่งมั่นที่จะเสียสละเพื่อเป้าหมายของกลุ่ม
“เขาเป็นคนใจกว้าง กล้าหาญ และทรหดอดทนอย่างยิ่ง เขามักจะเป็นแนวหน้าในการต่อสู้เสมอ” นักรบซึ่งใช้ชื่อว่า อบู อับดุลเราะห์มาน ให้ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก
“เมื่อถึงคิวของเขาที่จะต้องวางระเบิดพลีชีพ เขาก็ยินดีที่สุด เพราะรู้ว่าตนเองกำลังจะได้กลับไปพบพระเจ้า”
มหาอำนาจตะวันตกกำลังเกรงว่า ซีเรียอาจกลายเป็นแหล่งซ่องสุมและฝึกปรือกลุ่มติดอาวุธรุ่นใหม่ๆ ที่พร้อมจะออกไปก่อเหตุโจมตีทั้งในบ้านเกิดและต่างแดน ไม่ต่างจากอัฟกานิสถาน