เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียวันนี้ (29 พ.ค.) ยิงเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพยูเครนตก 1 ลำ ส่งผลให้มีทหารยูเครนเสียชีวิตทั้งหมด 12 นาย โดยในจำนวนดังกล่าวมีคนหนึ่งเป็นทหารยศนายพล ซี่งนับเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุด ที่เกิดขึ้นในช่วง 7 สัปดาห์ของการปราบปรามกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของประเทศ
ความสำเร็จของกลุ่มติดอาวุธครั้งนี้ ได้สร้างความล้มเหลวอย่างร้ายแรงต่อประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก ซึ่งคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนมาได้หมาดๆ โดยก่อนหน้านี้เขาเน้นย้ำว่า จะบรรเทาความขัดแย้งที่เป็นภัยคุกคามต่ออดีตชาติสมาชิก สหภาพโซเวียตแห่งนี้
นอกจากนี้ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้นำกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียยังออกมายืนยันด้วยว่า เป็นผู้จับตัวเหล่าผู้สังเกตการณ์จากองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) ทั้ง 4 คนที่หายไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (26) ไปขังไว้ในบริเวณซึ่งอยู่ไม่ไกลไปจากจุดที่เฮลิคอปเตอร์ถูกจรวดต่อต้านอากาศยานแบบประทับไหล่ยิงตก
ในวันนี้ (29) มีรายงานว่า เกิดการปะทะกันหลายระลอกทั่วภาคตะวันออกของยูเครน อันเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม ขณะที่ความรุนแรงซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 200 ราย ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่ลดละ
โปโรเชนโก ซึ่งเป็นผู้นำที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก และได้คะแนนเสียง 54.7 เปอร์เซ็นต์ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันอาทิตย์ (25) ต้องหาหนทางป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากับรัสเซีย ผู้ที่อาจทำให้ยูเครนขาดแคลนก๊าซธรรมชาติตั้งแต่ต้นสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (29) ความสนใจของทุกฝ่ายพุ่งไปที่เมืองสลาเวียนสค์ ซึ่งมีประชากร 120,000 คน และส่วนใหญ่เป็นชาติพันธุ์รัสเซีย ทั้งยังเป็นเมืองแรกที่ถูกกลุ่มกบฏนิยมมอสโกเข้ายึดครอง เพื่อตอบโต้การที่ประชาชนในกรุงเคียฟลุกฮือขึ้นขับไล่ประธานาธิบดีที่มีจุดยืนหนุนรัสเซีย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
รักษาการณ์ประธานาธิบดี โอเล็กซานเดอร์ ตูร์ชินอฟ กล่าวในการประชุมสภาว่า “ผมเพิ่งได้รับแจ้งเหตุว่า พวกผู้ก่อการร้ายใกล้เมืองสลาเวียนสค์ ใช้จรวดต่อสู้อากาศยานแบบประทับบ่า (MPADS) ที่ผลิตในรัสเซีย ยิงเฮลิคอปเตอร์ของเราตกหนึ่งลำ”
ก่อนหน้านี้ ตูร์ชินอฟกล่าวว่าทหาร 13 นาย และพลเอกโวโลดืยมีร์ คุลชืยสกี เสียชีวิต แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและแหล่งข่าวในรัฐสภาได้แก้ยอดผู้เสียชีวิตว่ามี 12 คน
โฆษกกลุ่มติดอาวุธเปิดเผยกับสำนักข่าวรัสเซียว่า เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ตกระหว่างเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดแถบชานเมืองทางใต้ของสลาเวียนสค์
ยอดผู้เสียชีวิตในวันนี้ (29) ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ยูเครนสูญเสียกำลังทหาร 18 ตนไประหว่างการปะทะกันอย่างรุนแรงหลายชั่วโมงที่เกิดขึ้นในจังหวัดโดเนสค์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา
โปโรเชนโก นักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลวัย 48 ปี ซึ่งมีฉายาว่า “ราชาช็อกโกแลต” และครั้งหนึ่ง เคยมีสายสัมพันธ์อันดีต่อเจ้าหน้าที่แดนหมีขาววานนี้ (28) เชื้อเชิญให้ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียมาร่วมหารือกัน ขณะเดินทางไปร่วมงานวันดี-เดย์ ที่หาดนอร์มังดี ของฝรั่งเศส พร้อมกันในเดือนมิถุนายนนี้
การหารือในเดือนหน้าจะเป็นครั้งแรกที่ผู้นำของทั้งสองประเทศได้พูดคุยกัน นับตั้งแต่ประชาชนชาวยูเครนลุกฮือขึ้นขับไล่ระบอบปกครองยูเครนที่สนับสนุน รัสเซีย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และจัดตั้งรัฐบาลรักษาการณ์ที่มีเจตจำนงทำลายอิทธิพลของรัสเซียซึ่งครอบงำ ยูเครนมานาน
***เจ้าหน้าที่โอเอสซีอีอยู่กับเรา***
ก่อนหน้านี้ เวียเชสลาฟ โปโนมาร์ยอฟ ซึ่งตั้งตนเองเป็นนายกเทศมนตรีของประชาชนสลาเวียนสค์ กล่าวกับสำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์ว่า กลุ่มติดอาวุธเป็นผู้จับกุมเหล่าผู้สังเกตการณ์จาก องค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) 4 คนซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (26) โดย “ทั้งหมดปลอดภัยดี” และกำลังจะได้รับการปล่อยตัว
“ไม่มีใครจับพวกเขาไปหรอก พวกเรานี่แหละที่ควบคุมตัวพวกเขาไว้ ตอนนี้เราจะซักว่าพวกนี้เป็นใคร ทำงานให้กับใคร และเพื่ออะไร จากนั้นจึงยอมจะปล่อยตัว”
เขาชี้ว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนมีส่วนพัวพันในการจารกรรม
แหล่งข่าวที่โอเอสซีอีกล่าวกับเอเอฟพีว่า กำลังเจรจาเพื่อขอปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คน ซึ่งประกอบด้วยชาวเดนมาร์ก เอสโตเนีย ตุรกี และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งในจำนวนนี้มีหนึ่งคนเป็นผู้หญิง แต่คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง