รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - คณะผู้ไกล่เกลี่ยจากสหภาพแห่งรัฐอเมริกาใต้ (UNASUR) ประสบความล้มเหลวในการหาทางออกให้กับวิกฤตการเมืองในเวเนซุเอลา หลังไม่สามารถโน้มน้าวให้รัฐบาลและฝ่ายต่อต้านฟื้นการเจรจาเพื่อฝ่าทางตันให้กับดินแดนอเมริกาใต้แห่งนี้ที่ถูกรุมเร้าด้วยการประท้วงนานหลายเดือน
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า คณะผู้แทนของ “อูนาซูร์” ซึ่งประกอบไปด้วยรัฐมนตรีต่างประเทศของบราซิล โคลอมเบีย และเอกวาดอร์ได้เดินทางออกจากกรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลาแล้ว หลังจากไม่ได้รับความร่วมมือจากทั้งรัฐบาลเวเนซุเอลาและกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล ในการรื้อฟื้นกระบวนการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 42 ราย ขณะที่อีกกว่า 3,000 คนถูกจับกุม
แหล่งข่าวในกรุงการากัสเผยว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ความพยายามของคณะผู้แทนอูนาซูร์ประสบความล้มเหลว เกิดจากความไม่พอใจของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเวเนซุเอลาที่ระบุว่ารัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโรยังคงเดินหน้าใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วง ทั้งที่รับปากจะเปิดการเจรจาเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ
ทั้งนี้ เวเนซุเอลาซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกในกลุ่มโอเปกกำลังเผชิญกับวิกฤตความวุ่นวายทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี หลังจากที่ประชาชนและนักศึกษาตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศออกมารวมตัวประท้วงตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก จากความล้มเหลวในการแก้ปัญหาความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาอาชญากรรม ตลอดจน ปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภคขาดแคลน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า ประธานาธิบดีมาดูโรซึ่งเป็น “ทายาททางการเมือง” ของอดีตประธานาธิบดีอูโก ชาเบซ ผู้ล่วงลับยังคงได้รับการสนับสนุนจากกองทัพและประชาชนระดับรากหญ้าในประเทศ แม้กระแสต่อต้านรัฐบาลในหมู่ชนชั้นกลางและบรรดาคนรวยจะเพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ