นักวิจัยชี้สารพิษที่ลอยไปจาก “จีน” อาจเป็นสาเหตุ “โรคคาวาซากิ” ในเด็กญี่ปุ่น

เอเอฟพี – โรคคาวาซากิ ซึ่งเป็นอาการผิดปกติของเยื่อเมือกผิวหนังต่อมน้ำเหลืองที่พบมากในเด็กญี่ปุ่น อาจมีสาเหตุจากสารพิษที่ถูกกระแสลมหอบข้ามทะเลไปจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน นักวิจัยเผยวานนี้(19)

แม้โรคคาวาซากิจะพบได้ทุกเชื้อชาติในโลก แต่กลับพบในเด็กญี่ปุ่นมากกว่าที่อื่นๆ โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้ มีผื่นแดงตามผิวหนัง เล็บนิ้วมือลอก และผู้ป่วยร้อยละ 25 อาจเกิดภาวะเส้นเลือดแดงในหัวใจโป่งพอง (coronary aneurysm) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต

นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนของโรคคาวาซากิซึ่งพบผู้ป่วยครั้งแรกในปี 1967 แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่า โรคนี้มักเกิดกับเด็กญี่ปุ่นในบางช่วงเวลาของปีเท่านั้น

“แน่นอนว่าโรคนี้พบในภูมิภาคอื่นๆ ของโลกเช่นกัน แต่การศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน, ญี่ปุ่น, ฮาวาย และฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อสืบหาต้นตอของโรค” เจน เบิร์นส อาจารย์และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคคาวาซากิ วิทยาลัยการแพทย์ซานดิเอโก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ให้สัมภาษณ์

งานวิจัยในอดีตซึ่งวิเคราะห์ทิศทางของกระแสลม พบว่า จำนวนผู้ป่วยโรคคาวาซากิจะเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษในช่วงที่ลมพัดมาจากพื้นที่เกษตรกรรมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน

นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ได้นำเครื่องบินติดตั้งอุปกรณ์กรองอากาศขนาดใหญ่ขึ้นไปเก็บตัวอย่างอากาศจากระดับความสูง 2-3 กิโลเมตรในญี่ปุ่นมาตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่า จุลชีพที่ลอยปะปนอยู่ในอากาศมากที่สุดคือ เชื้อแคนดิดา (Camdida) ซึ่งเป็นเชื้อราในตระกูลเดียวกับยีสต์ และเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อราในมนุษย์ทั่วโลก

จากการทดลองในหนู เชื้อแคนดิดามีส่วนทำให้เส้นโลหิตแดงในหัวใจผิดปกติ คล้ายกับอาการของโรคคาวาซากิ

งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences ชี้ว่า สาเหตุของโรคคาวาซากิที่เป็นไปได้มากที่สุดน่าจะเกิดจาก “สารพิษแบบ pre-formed หรือโมเลกุลในสิ่งแวดล้อม” ที่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งอาจมีความเกี่ยวโยงกับเชื้อแคนดิดา

ทฤษฎีนี้ระบุว่า สารพิษก่อโรคหรือโมเลกุลที่ลอยในอากาศอาจถูกลมพัดพามาจากแหล่งเพาะปลูกธัญพืชในจีน และเมื่อเด็กเล็กซึ่งมีพันธุกรรมไวต่อสารพิษเหล่านี้ได้สัมผัสมัน ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายก็จะตอบสนองอย่างผิดปกติ

เบิร์นส เชื่อว่า น่าจะมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเมื่อช่วงทศวรรษ 1960 ซึ่งเป็นเวลาที่พบผู้ป่วยโรคคาวาซากิรายแรก