รอยเตอร์/เอเอฟพี - สื่อต่างประเทศรายงานข่าวกองทัพไทยประกาศใช้กฎอัยการศึกในวันนี้ (20) เพื่อคืนความสงบเรียบร้อยแก่บ้านเมือง หลังการชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ยืดเยื้อมานานถึง 6 เดือนส่งผลให้ไทยขาดรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศ ขณะที่ทหารยืนยันท่าทีล่าสุดของกองทัพไม่ใช่การ “รัฐประหาร”
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ยืนยันว่ารัฐบาลรักษาการยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามเดิม หลังจากที่กองทัพได้ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา
“การประกาศกฎอัยการศึกมีจุดประสงค์เพื่อคืนความสันติและเสถียรภาพแก่บ้านเมือง ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล และรัฐบาลยังสามารถปฏิบัติภารกิจต่อไปได้ตามปกติ” พ.อ.วินธัยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการกองทัพบก ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กองทัพจำเป็นต้องเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อยเนื่องจากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมทางการเมืองซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและสร้างความเสียหาย ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 30 คนนับตั้งการชุมนุมขับไล่รัฐบาลเริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
“เราเกรงว่าการใช้ความรุนแรงเหล่านี้อาจกระทบต่อความมั่นคงโดยรวมของชาติ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการประกาศกฎอัยการศึกเพื่อคืนความสงบเรียบร้อย... ผมขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมทุกฝ่ายยุติกิจกรรมทั้งหมด และร่วมมือกับกองทัพเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ”
การเมืองไทยเข้าสู่ภาวะติดหล่มอีกครั้ง หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 9 คนถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาถอดถอนเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ในความผิดฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ ส่งผลให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีชั่วคราว
สัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่อาวุโสสหรัฐฯ คนหนึ่งออกมาระบุว่า สหรัฐฯ “ค่อนข้างเชื่อมั่น” ว่ากองทัพไทยจะใช้ความอดทนอดกลั้น และไม่เข้าแทรกแซงสถานการณ์การเมือง
เอมี ซีไรต์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชี้ว่า “กองทัพไทยน่าจะได้รับบทเรียนบางอย่างแล้ว” จากการโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งทำให้วอชิงตันตัดความช่วยเหลือแก่ประเทศไทย
ทหารระดับนายพลผู้หนึ่งระบุว่า เวลานี้กองทัพได้ส่งทหารออกไปควบคุมความสงบเรียบร้อยในกรุงเทพมหานคร รวมถึงสถานีโทรทัศน์ต่างๆ
“เราประกาศกฎอัยการศึก ไม่ใช่การรัฐประการ เนื่องจากเวลานี้บ้านเมืองขาดเสถียรภาพ มีการลอบสังหารเกิดขึ้นแทบทุกวัน” นายพลซึ่งไม่ประสงค์ออกนามให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
“เราขอความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ให้ช่วยประกาศให้ประชาชนทราบว่า ไม่ต้องตื่นตระหนก ยังไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้น”
นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ยืนกรานเมื่อวานนี้ (19) ว่า การสละตำแหน่งไม่ใช่ทางออกของวิกฤตการเมือง
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยืนยันว่าเขาและมวลชนคนเสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะยังยึดถนนอักษะเป็นพื้นที่ชุมนุม จนกว่าจะสามารถฟื้นคืน “หลักการประชาธิปไตย” และจัดการเลือกตั้งได้
“ไม่เป็นไร” นายจตุพรให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ซึ่งถามว่าเขาคิดอย่างไรกับการประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้
“เราจะอยู่กันที่นี่และชุมนุมกันต่อไป จนกว่าประเทศนี้จะกลับสู่แนวทางประชาธิปไตย ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกตั้งและการมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง”
ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “กองทัพกำลังพยายามเจรจาให้กลุ่มคนเสื้อแดงสลายการชุมนุม”
เหตุชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อและทำให้ไทยยังไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหดตัวลง 2.1% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้