เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลการลงประชามติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสวิตเซอร์แลนด์ ในวันอาทิตย์ (18) ระบุราว 76 เปอร์เซ็นต์ของผู้มาใช้สิทธิ ออกเสียงคัดค้านร่างกฎหมายฉบับใหม่เกี่ยวกับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ที่จะส่งผลให้แรงงานในแดนนาฬิกา ได้รับค่าตอบแทนรายชั่วโมงในระดับที่ “สูงที่สุดในโลก”
ร่างดังกล่าวเสนอให้มีการกำหนดอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำในสวิตเซอร์แลนด์ ที่ชั่วโมงละ 22 ฟรังก์สวิส (ราว 800 บาท) โดยหากมีผลบังคับใช้จะทำให้สวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นดินแดนที่มี“ค่าแรงขั้นต่ำสูงที่สุดในโลก” แซงประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำอื่นๆ ในโลกตะวันตกทั้งสหรัฐฯ เยอรมนี และฝรั่งเศส
ผลการลงประชามติที่ออกมา ส่งผลให้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวที่ผลักดันโดยสหภาพแรงงาน “SGB” และได้รับการหนุนหลังจากพรรคการเมืองหลายพรรค รวมถึงพรรคกรีน และกลุ่มการเมืองของพวกสังคมนิยมมีอันต้องตกไป แม้ฝ่ายหนุนร่างจะยืนยันว่า แนวทางของพวกเขาเหมาะสมกับค่าครองชีพที่สูงลิ่วในประเทศและจะช่วยเพิ่ม “อำนาจซื้อ” ให้กับประชาชนได้มากกว่า 300,000 คน
ขณะที่ฝ่ายที่ต่อต้านเชื่อว่า หากอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำดังกล่าวมีผลบังคับใช้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจห้างร้านจำนวนมาก และจะซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางของประเทศ
ด้านโยฮันน์ ชไนเดอร์-อัมมันน์ รัฐมนตรีคลังสวิตเซอร์แลนด์ออกมาแถลงว่า ตัวเขารู้สึกยินดีที่ร่างดังกล่าวไม่ผ่านความเห็นชอบ เนื่องจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลให้มีประชาชนต้องตกงานเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า ในวันเดียวกันนี้ ยังมีการจัดลงประชามติในอีกประเด็นปัญหาหนึ่ง ซึ่งผลปรากฏว่าราว 53 เปอร์เซ็นต์ของผู้ออกเสียงชาวสวิสคัดค้านแผนการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ “กริพเพน” จำนวน 22 ลำจากบริษัท “ซาบบ์” ของสวีเดน ซึ่งผลที่ออกมากลายเป็นข่าวร้ายสำหรับรัฐบาลสวิส ที่พยายามจัดหาเครื่องบินขับไล่ชุดใหม่เข้าประจำการแทนฝูงบินเดิมที่ใช้งานมายาวนาน
